เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่ บก.ปปป. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แถลงกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ปล่อยตัวชาวจีน 11 คน แลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดี
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ 3 นาย ร่วมกับตำรวจ 191 จำนวน 10 นาย นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 6/5 ซอยนางลิ้นจี่ 2 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. หลังสืบทราบว่า มีการแอบอ้างว่าสถานกงสุลใหญ่นาอูรู ประจำประเทศไทย มีชาวต่างชาติเข้าออกพลุกพล่าน อาจมีการทำผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบชาวจีน 12 คน ในจำนวนนี้มีผู้ต้องหาชาวจีนรายสำคัญที่มีหมายจับแดงของตำรวจสากลรวมอยู่ด้วย และทราบว่า ชายจีนคนดังกล่าวได้หลบหนีจากผับจินหลิงที่เป็นข่าวดัง ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ปล่อยผู้ต้องหาทั้งหมด แลกกับเงิน 20 ล้านบาท แต่นำตัว นางเซี่ยง หยาง อายุ 36 ปี ชาวจีน ที่แสดงตนเป็นคนดูแลบ้านหลังดังกล่าว มาสอบสวนที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมของกลางเงินสด 2.5 ล้าน ทั้งๆ ที่เงินสดของกลางที่เห็นในภาพมีกว่า 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้า ตนได้ร้องเรียนและมอบข้อมูลให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งท่านไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ที่เข้าข่ายความผิดข้อหา ยักยอกของกลาง, รับสินบน และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ.