เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุ เรื่องการด้อยค่าในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลผิดพลาดจนมีคนตายทุกวัน ว่า ตนขอยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้ประเมินสถานการณ์ผิดพลาดหรือบริหารสถานการณ์ล้มเหลว แต่สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นขณะนี้รุนแรงขนาดไหน นายรังสิมันต์ น่าจะรู้ดี ที่สำคัญมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วหลังจากเชื้อกลายพันธุ์ดังนั้นไม่ว่าใครเข้ามาบริหารประเทศในช่วงนี้ ก็ต้องถือว่าเจอศึกหนักทั้งนั้น อย่าลืมว่าในช่วงแรกเราสามารถควบคุมกับโควิดได้ดีจนทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังชื่นชม แต่ขณะนี้ทุกคนทั่วโลกก็รู้ดีว่าเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์จนประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ไม่สามารถป้องกันได้เต็มร้อย และการแพร่ระบาดก็รวดเร็ว
นายธนกร กล่าวอีกว่า สถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ ทุกคนรู้ว่ารุนแรงขนาดไหน และหากนายรังสิมันต์ จะมองว่ารัฐบาลบริหารผิดพลาด หลายประเทศทั่วโลกก็คงจะผิดพลาดหนักกว่าประเทศไทยอีก ลองหันไปดูตัวเลขในต่างประเทศบ้างว่าเขาติดเชื้อเท่าไหร่ เสียชีวิตเท่าไหร่ ไม่ใช่สักแต่ว่ามีปากก็ฟาดทางโน้นที ทางนี้ที หรือคิดว่าเป็น ส.ส.เลยต้องออกแอ๊คชั่นให้ประชาชนได้เห็นบ้าง ทั้งที่จริงแล้วมีหลายวิธีที่จะทำให้ประชาชนเห็นฝีมือหรือฝีปากตัวเอง และช่วงนี้น่าจะเป็นโอกาสดีที่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนประชาชน แม้ว่าจะเป็นสมัยแรก แต่ก็สามารถทำได้ด้วยการออกมาช่วยเหลือประชาชน ช่วยสอดส่องดูแลว่าจุดไหน มีปัญหาอย่างไร ทั้งเรื่องจุดฉีดวัคซีน หรือจุดตรวจหาเชื้อ หรือแม้แต่การดูแลผู้ป่วยทั้งเรื่องอาหารการกิน ยารักษาโรคหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น นายรังสิมันต์ ก็สามารถช่วยดูแลได้
“แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นนายรังสิมันต์ หรือพวกพ้องที่จะมีน้ำจิตน้ำใจ แม้แต่การนำข้าวปลาอาหารไปช่วยเหลือประชาชนหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าเลย ก็มีแต่นายรังสิมันต์ และสมาชิกพรรคก้าวไกล ที่รีบไปฉีดวัคซีนก่อนใครเพื่อน จนมีความสบายใจและพากันออกมาด้อยค่าวัคซีนที่ตัวเองรีบฉีดก่อนว่าไม่ได้เรื่อง มาด่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลปาวๆ ว่าไม่รีบหาวัคซีนที่ดีมาฉีดให้ประชาชน แบบนี้ไม่เรียกว่าเห็นแก่ตัวแล้วจะให้เรียกว่าอะไร” นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า การแสดงความคิดเห็นออกมาเช่นนี้ของนายรังสิมันต์ ก็ทำให้เห็นสมองส่วนหลังและความคิดที่ไม่เคยเปลี่ยน เกาะกระแส ช่วงชิงโอกาสที่อีกฝ่ายกำลังเพลี่ยงพล้ำ ก็รีบออกมาซ้ำเติม หรือแม้แต่การหนุนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาต่อต้าน ด่าทอรัฐบาล นายรังสิมันต์ก็ได้แค่เกาะกระแส ไม่เคยเป็นผู้นำได้เพราะใจไม่ถึงพอ หลบอยู่แต่หลังกลุ่มผู้ชุมนุมเหมือนกับหลายๆ คนในพรรคก้าวไกล ที่ดูเหมือนจะเป็นลักษณะเดียวกันหมด แต่อยากขอว่าเรื่องของโควิด-19 มันเป็นเรื่องของชีวิตคน เป็นความเดือดร้อนของประชาชน อย่าเอามาเล่นการเมือง ไม่เช่นนั้นนายรังสิมันต์เองนั่นแหล่ะที่จะถูกประชาชนลงทัณฑ์ ไม่ใช่รัฐบาล.