นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยในงานสัมนาออนไลน์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ก้าวสู่ปีที่ 48 ขับเคลื่อนตลาดทุนแห่งอนาคตว่า 4 โจทย์ใหญ่กับโอกาสและความท้าทายของตลาดทุนในอนาคต คือ 1.แหล่งลงทุนสำหรับธุรกิจเทคสตาร์ทอัพ ที่หลังจากนี้จะเห็นบริษัทด้านเทคโนโลยีเข้ามาระดมทุนมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจเหล่านี้ ซึ่ง ตลท.ต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์ รวมถึงสร้างกระดานใหม่ขึ้นมา และการทำงานร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อสร้างกฎเกณฑ์ใหม่รวมถึงการมีตราสารประเภทใหม่ๆ เพื่อรองรับธุรกิจเหล่านี้
โจทย์ที่ 2.การออกกฎเกณฑ์รองรับธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อให้เอื้อต่อการเข้ามาระดมทุนในตลาด 3.ความท้าทายจากพฤติกรรมของนักลงทุน ที่ปัจจุบันคุ้นเคยกับการลงทุนในต่างประเทศ สินทรัพย์ในตลาดต่างประเทศได้รับความนิยมโดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยี ดังนั้นโจทย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ จะทำอย่างไรให้คนมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยแทนที่จะไปลงทุนในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นใหม่ อาทิ การสร้างตราสารต่างๆ ขึ้นมา อาจช่วยกักเก็บเงินให้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทยได้
สุดท้าย 4.ดิจิทัล ทรานฟอร์เมชั่น ทำอย่างไรให้ ตลท.สามารถรองรับการระดมทุนในรูปแบบของดิจิทัลได้ เช่น การออกโทเคนนั้น ไทยพร้อมหรือยัง และทำอย่างไรให้นักลงทุนรุ่นใหม่สามารถซื้อขายหุ้นแบบสัดส่วนได้และสะดวกสบายเช่นเดียวกับการลงทุนในคริปโต ซึ่งจะช่วยดึงให้นักลงทุนรุ่นใหม่เข้าสู่สินทรัพย์ดั้งเดิมในรูปแบบของโทเคนที่เติบโตสูงเช่นเดียวกับคริปโตได้ ซึ่งหากในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ ตลท.สามารถทำได้ทั้ง 4 โจทย์ใหญ่นี้ ก็มั่นใจได้ว่าตลาดทุนไทยจะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำอาเซียนได้อย่างแน่นอน
นายณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ สถาบันอนาคตไทยศึกษา กล่าวว่า สิ่งที่อยากเห็นจาก ตลท. อาทิ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่, การบริการง่าย สะดวก, การระดมทุนและเข้าถึงนักลงทุนได้เร็วกว่าเดิม และบริษัทมีโอกาสเข้าถึงดีลที่ดีได้เร็วกว่าเดิม, สร้างการเข้าถึง รู้จัก และเข้าใจผลิตภัณฑ์ลงทุนได้ง่าย, เชื่อมต่อบริษัท ผลิตภัณฑ์ กับนักลงทุนได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นทางการเสมอไป และส่งเสริมให้นักลงทุนค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง
นางกิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่าอีกเทรนด์สำคัญสำหรับโลกและการลงทุนในอนาคต คือ ความยั่งยืน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องสังคมคาร์บอนต่ำก็สำคัญมาก หากไม่ตามเทรนด์ จะค้าขายกับประเทศอื่นในโลกอนาคตได้ลำบาก
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับโจทย์ใหญ่ที่ผู้ร่วมเสวนาชี้จุดสำคัญโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมุ่งมั่นทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อปรับปรุงและส่งเสริมให้ดียิ่งขึ้น อาทิ การลงทุนไร้พรมแดน โดยจะสร้างออนไลน์แอพพลิเคชั่นให้เปิดบัญชีแล้วลงทุนได้ทุกเวลาเชื่อมต่อกับต่างประเทศได้, สนับสนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงตลาดทุนผ่านการเข้าระดมทุนได้ในไลฟ์ เอ็กซ์เชนจ์, ปรับปรุงระบบสตรีมมิ่งเป็นซูเปอร์แอพที่สามารถลงทุนได้ทั้งสินทรัพย์ดิจิทัล ร่วมกับสินทรัพย์ดั้งเดิม และการลงทุนอย่างยั่งยืน