นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนสามารถเลือกใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีได้หลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์ ทั้งที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th หรือผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Vehicle Tax ซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีความสะดวก เข้าถึงง่ายได้ทุกที่ อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ ไม่ต้องเดินทาง ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19
ทำให้สถิติการชำระภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานคร ประจำเดือน มี.ค.65 จำนวนทั้งสิ้น 622,853 คัน โดยเฉพาะผ่านทางเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th มีผู้ใช้บริการสูงขึ้นถึง 67,482 คัน และผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Vehicle Tax มีผู้ใช้บริการจำนวน 10,004 คัน โดยเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้จะได้รับความนิยมจากประชาชนเจ้าของรถอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของสถิติการรับชำระภาษี
นายเสกสม กล่าวต่อว่า รถประจำปีที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มีผู้ใช้บริการจำนวน 429,235 คัน บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 98,486 คัน ขณะที่การให้บริการชำระภาษีผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) มีผู้ใช้บริการจำนวน 2,049 คัน เคาน์เตอร์เซอร์วิส มีผู้ใช้บริการจำนวน จำนวน 13,488 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 974 คัน และผ่านแอพพลิเคชั่น mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 1,135 คัน
จากจำนวนผู้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำเดือน มี.ค.65 โดยเฉพาะจากช่องทางรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งเป็นผลจากการที่ ขบ. มุ่งมั่นพัฒนาบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเจ้าของรถไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ปัจจุบันรองรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (จยย.) ได้ทุกอายุการใช้งาน โดยกรณีเป็นรถที่ค้างชำระภาษีเกินกว่า 1 ปี หรือรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถ จยย. ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจและมีผล “ผ่าน” การตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนดำเนินการชำระภาษีรถผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th
นายเสกสม กล่าวอีกว่า หรือผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Vehicle Tax รอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน ซึ่งเจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าได้ภายใน 90 วัน ก่อนวันที่ภาษีรถสิ้นอายุ สำหรับกรณีรถที่สูญหาย ชำรุดและอยู่ระหว่างการซ่อม หรือเลิกใช้แล้ว เจ้าของรถต้องมาติดต่อขอแจ้งการหยุดใช้รถต่อนายทะเบียน ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ทันที
หากไม่แจ้งการหยุดใช้รถและปล่อยให้รถค้างชำระภาษีถึง 3 ปี ทะเบียนรถจะถูกระงับ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนรถได้ และจะต้องชำระภาษีรถที่ค้างชำระย้อนหลังอีกด้วย หากเจ้าของรถมีความประสงค์ขอใช้รถต่อในภายหลัง สามารถดำเนินการแจ้งใช้รถดังกล่าวได้ เพียงใช้หลักฐานคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ แบบคำขอแจ้งใช้รถที่แจ้งไม่ใช้รถไว้ และหลักฐาน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ