“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เผยถึงความเคลื่อนไหวของทีมบีเอ็มเอ็กซ์ไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า ล่าสุด 0″โค้ชบอส” อัถร ไชยมาโย ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้รายงานมาว่า จากการที่ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ตัดสินใจเลื่อนกำหนดการฝึกซ้อมของวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา จากช่วงเช้าไปอยู่ช่วงบ่ายทั้งหมด เนื่องจากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก ที่พัดเข้าสู่กรุงโตเกียว แต่ในช่วงการฝึกซ้อมต้องเผชิญกับกระแสลมที่แรงขึ้นกว่าปกติ ทำให้ “น้องฟ้า” ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร เสียจังหวะเท้าหลุดจากบันไดระหว่างกระโดดเนินและกระแทกพื้นสนามจนมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา

ทั้งนี้ จากการตรวจอาการเบื้องต้นโดยการใช้อัลตราซาวด์ และเอ็มอาร์ไอ น.อ.นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ หัวหน้าแพทย์ประจำทีมชาติไทยในโตเกียวเกมส์ ระบุว่า ไม่พบอาการกระดูกแตกหรือหัก เอ็นข้อเท้าน่าจะฉีกขาดบางส่วนจากการกระแทก แต่ก็ไม่มากนัก สามารถแข่งขันได้ ทางฝ่ายแพทย์ได้รักษาอาการเบื้องต้นด้วยการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม จากนั้นก็จะต้องใส่สแตรปส์ หรือผ้าล็อกข้อเท้าไม่ให้เคลื่อนไหวมากเกินความจำเป็น รวมถึงในช่วงแข่งขันที่ “น้องฟ้า” จะลงแข่งขันรอบแรก วันที่ 29 ก.ค. ฝ่ายแพทย์และนักกายภาพของโอลิมปิกไทย ก็จะดำเนินการรักษาข้อเท้าที่เจ็บอยู่ให้ทุเลาใกล้เคียงร้อยเปอร์เซนต์มากที่สุดเพื่อสู้ศึก “โตเกียวเกมส์” ต่อไป

“การแข่งขันในรอบแรก ชุติกาญจน์ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนักปั่นระดับพระกาฬ แต่ละคนดีกรีไม่ธรรมดา เช่น มาเรียนา ปาโจน นักปั่นชาวโคลอมเบีย มืออันดับ 1 ของโลก เจ้าของ 2 เหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ ปี 2012 และ 2016 รวมทั้ง เมเรล สมัลเดอร์ นักปั่นชาวเนเธอร์แลนด์ มืออันดับ 10 ของโลก ดีกรีอันดับ 3 ในศึก “ยูซีไอ บีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส 2021” ที่โคลอมเบีย และ เพย์ตัน ไรด์นัวร์ นักปั่นชาวสหรัฐอเมริกา มืออันดับ 11 ของโลก อดีตแชมป์ “ยูซีไอ ปั๊ม แทร็ก เวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์ 2019″ ที่สวิตเซอร์แลนด์ นอกจากเจอศึกหนักจากคู่แข่งแล้ว ชุติกาญจน์ ยังต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บของตัวเองอีก ก็ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยส่งแรงใจไปเชียร์ ชุติกาญจน์ ลงแข่งขันในครั้งนี้ด้วย” เสธ.หมึก กล่าว

สำหรับการแข่งขันรอบแรก วันที่ 29 ก.ค. เริ่มเวลา 08.30 น. ตามเวลาไทย มีนักกีฬาแข่งขันทั้งสิ้น 24 คน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน แข่งขันกัน 3 โมโต แล้วคัดเอาผู้ที่มีคะแนนอันดับ 1-4 ของแต่ละกลุ่ม ผ่านเข้าไปในรอบรองชนะเลิศ (รอบ 16 คน) ในวันที่ 30 ก.ค. ซึ่งในรอบรองชนะเลิศ จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 8 คน แข่งขันกัน 3 โมโต เพื่อคัดเอาผู้ที่มีคะแนนอันดับ 1-4 ของแต่ละกลุ่ม รวม 8 คน ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ในวันเดียวกันต่อไป.