เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 11 พรรค ทสท. พร้อมด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค ร่วมแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนต่อนโยบายด้านความหลากหลายทางเพศที่พรรคไทยสร้างไทย โดยมีมูลนิธิและเครือข่ายเพื่อความหลากหลายทางเพศ ร่วมแลกเปลี่ยน เช่น ตัวแทนจากมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ภาคีสีรุ้งเพื่อสมรสเท่าเทียม สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย และเยาวชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยได้สะท้อน ถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน การคุ้มครองบุคคลข้ามเพศ โดยเฉพาะกฎหมายคุ้มครองสิทธิในการก่อตั้งครอบครัวโดยเสมอภาคและเท่าเทียมกันสำหรับคนทุกเพศ รวมถึงการคุ้มครองคนข้ามเพศในโลกการจ้างงาน และรับฟังเสียงของผู้เสียหายจากการถูกใช้ความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐ

น.ต.ศิธา กล่าวว่า จะขอคิดต่างเพื่อสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นมหานครสีรุ้ง โดยเห็นว่าผู้คนที่มีความหลากหลายทางเพศ คือส่วนสำคัญในการสร้างเมือง ดังนั้นประชากรกลุ่มนี้ คือผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ทำเม็ดเงินมหาศาลแต่ละปี แต่ที่ผ่านมากลับต้องตั้งคำถามว่ากรุงเทพฯ ได้ทำอะไรเพื่อพี่น้องประชาชนกลุ่ม LGBTIQ ไปแล้วบ้าง จึงมีนโยบาย Liberate และ Empower ปลดปล่อยและสร้างพลังให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศจากการถูกกดทับด้วยกฎหมายที่ล้าสมัยและเสริมสร้างศักยภาพ ให้พวกเขามีส่วนร่วมในการพัฒนา กำหนดทิศทางเพื่อสร้างกรุงเทพฯ สีรุ้ง ให้เป็นมหานคร ที่ไม่ได้โอบรับความหลากหลายทางเพศแค่ลมปากอีกต่อไป

ตนจะทำให้ทุกวันเป็นวันแห่งความภาคภูมิใจ เริ่มต้นจากการเลิกเห็นหัวประชาชนกลุ่มนี้แค่เดือน มิ.ย.หรือเดือน Pride แต่ต้องทำให้ทุกวัน ประชาชนกลุ่มนี้ดำรงชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯได้อย่างปลอดภัย ห่างไกลจากการเลือกปฏิบัติ และความรุนแรง จะทำให้เดือน Pride ถูกยกระดับให้เป็นมหกรรมการท่องเที่ยวประจำเดือนของกรุงเทพฯ Bangkok Pride ด้วยกลไกของ Bangkok creativity อย่างเป็นทางการ และตนจะขอยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นมหานครระดับโลก กับการรับรองและคุ้มครองชีวิต LGBTIQ โดยออกข้อบัญญัติกรุงเทพฯ คุ้มครองการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ โดยสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายต่างๆ พร้อมสร้างพื้นที่ปลอดภัยทั้งในบ้านและสถานศึกษาเพื่อให้ LGBTIQ ที่อยู่ในกรุงเทพฯ ได้เติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี รวมถึงการจัดสร้างบ้านพักฉุกเฉิน เพื่อรองรับ ผู้ที่เสียหายจากการถูกใช้ความรุนแรงทั้งในครอบครัวและพื้นที่สาธารณะ จะทำให้มั่นใจว่ากรุงเทพฯ มีทีมสหวิชาชีพที่ผ่านการฝึกอบรม และเข้าใจต่อวิถีของประชาชนกลุ่มนี้เป็นอย่างดี

“หากกรุงเทพฯ มีผู้ว่าฯ ชื่อศิธา ทิวารี ปัญหาของผู้มีความหลากหลายทางเพศ จะต้องมีที่พึ่งพา โดยจะสร้างระบบที่ทำให้ทุกเสียงสะท้อนปัญหาที่พวกเขาเผชิญไม่ว่าจะเป็นการเลือกปฏิบัติ การถูกใช้ความรุนแรง การเข้าไม่ถึงโอกาส ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งสามารถร้องเรียนมาถึงตนได้ เพื่อให้มีการแก้ปัญหา และรับผิดชอบได้ทันที ที่สำคัญขอให้มั่นใจว่าข้าราชการพนักงานในสังกัดกรุงเทพมหานครที่มีความหลากหลายทางเพศทุกคน จะได้รับการปฏิบัติ ด้วยความเคารพเสมอภาคเท่าเทียม” น.ต.ศิธา กล่าว.