เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 3 กล่าวระหว่างลงพื้นที่เขตบางคอแหลม ยานาวา ว่าวันนี้ตนยังคงลงพื้นที่ หาเสียงต่อเนื่องในหลายๆ เขตของ กทม.ซึ่งนอกจากจะมาแนะนำตัวให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว ต้องการสำรวจปัญหาต่างๆ พบว่าประชาชน ส่วนใหญ่ร้องเรียนเรื่องการจราจรทั้งเรื่องของความหนาแน่นแออัด การจราจรติดขัด และขอให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย เช่น เรื่องทางม้าลาย ที่ประชาชนไม่มั่นใจในความปลอดภัยแตกต่างกับเมืองใหญ่ในต่างประเทศ ที่รถยนต์จะหยุดทันทีเมื่อเห็นคนข้ามทางม้าลาย

นายสกลธี กล่าวว่าในส่วนของกรุงเทพฯ ตนคิดว่าสิ่งสำคัญคือการจัดทำทางม้าลาย ให้ปลอดภัยที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนข้ามถนน และเป็นจุดสังเกตที่คนขับขี่ต้องชะลอรถหรือหยุดเมื่อใกล้เขตทางม้าลาย ไม่มีการขับแซง หรือเร่งความเร็ว

“ผมคิดว่าเรื่องสัญญาณไฟเตือนต่างๆ ควรมีความชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะบางทีคนขับรถมาแทบสังเกตไม่เห็นว่าเป็นทางสำหรับคนข้าม และที่สำคัญทางม้าลายควรเหมือนกันเช่นการทาสีที่เหมือนกัน เพื่อให้เป็นที่จดจำ เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความระมัดระวังเมื่อถึงทางแยก หรือทางข้ามสำหรับคนข้างถนน” นายสกลธี กล่าว

นายสกลธี กล่าวต่อว่า อีกปัญหาหนึ่งที่ตนพบเห็นและเคยดำเนินการมาตั้งแต่สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ คือการกำจัดซากรถเก่าต่างๆ ที่จอดทิ้งไว้ตามถนนหนทางหรือในตรอกซอกซอย ซึ่งนอกจากสร้างปัญหาการกีดขวางการจราจร แล้วยังเป็นแหล่งเก็บฝุ่นสร้างความสกปรกโดยช่วงปีกว่าๆ ที่ทำโครงการนี้มาได้เคลื่อนย้ายรถเก่าไปมากกว่าพันคัน ทั้งส่วนที่เจ้าของซากรถเคลื่อนเองและ กทม.จัดเคลื่อนย้ายไปไว้ ในพื้นที่ที่กำหนดในเขตหนองแขม ซึ่งเป็นโครงการที่ประชาชนชอบ เพราะซากรถบางคันจอดกันมา 30-40 ปี ยังไม่มีการเคลื่อนย้าย

“ถ้าผมมีโอกาสกลับเข้าไปทำก็จะดำเนินการต่อ เพื่อทำให้พื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ สะดวกปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด” นายสกลธี กล่าว.