นางสาวนันทภรณ์ อังศุกุลธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษตรอินโน จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง นวัตกรรมและเทคโนโลยีจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาด้านต่างๆ รวมถึงในภาคการเกษตรเพื่อตอบโจทย์เกษตรกรสู่การเป็น Smart Farmer อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยจุดแข็งของ 3 องค์กรชั้นนำ ได้แก่ เอสซีจี ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด และคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเครื่องจักรกลและนวัตกรรมการเกษตรเพื่ออนาคต ตลอดจนเทคโนโลยี IoT ที่มีประสิทธิภาพ
โดยมุ่งมั่นเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาสินค้าและบริการ รวมไปถึงพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต เพื่อตอบสนองรูปแบบชีวิตของผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ เทรนด์เรื่องความมั่นคงทางอาหาร หรือ Food Security รวมถึงสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งตัดสินใจที่จะกลับภูมิลำเนาเพื่อมาทำการเกษตร และกลุ่มคนเมืองที่หันมาสนใจทำการเกษตรมากขึ้น จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการยกระดับภาคการเกษตรของไทยให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน ประกอบกับการส่งเสริมเรื่อง Smart Farming จะต้องอาศัยความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ จึงได้ผนึกกำลังเปิดตัว บริษัท เกษตรอินโน จำกัด ขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการถือครองหุ้นคือ เอสซีจี 51 % สยามคูโบต้า 25 % และคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น 24 %
สำหรับสินค้าและบริการของเกษตรอินโน จะประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก คือ เกษตรอินโน โซลูชั่น (KasetInno Solutions) ประกอบด้วย Farm Design, Farm Development และ Farm Care บริการออกแบบ พัฒนา และดูแลฟาร์มเกษตรครบวงจร เพื่อช่วยวางแผนในการทำเกษตร ให้แก่กลุ่มคนที่สนใจการทำเกษตรแต่ยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเริ่มต้น รวมไปถึงกลุ่มคนที่มีพื้นที่ว่างเปล่าหรือกลุ่มองค์กรธุรกิจการเกษตรที่ต้องการองค์ความรู้และนวัตกรรมไปใช้บริหารจัดการฟาร์มให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และกลุ่มเกษตรกรมืออาชีพที่มีพื้นที่ทำเกษตรเดิมอยู่แล้ว แต่ต้องการระบบการจัดการรวมถึงเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ไปช่วยให้การทำเกษตรง่ายขึ้น และส่วนที่สอง คือ Farm & Machinery Management Platform ระบบบริหารจัดการฟาร์มและเครื่องจักร ด้วยแอปพลิเคชันที่เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการฟาร์มและเครื่องจักรกลฯ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาทิ K-iField Application ระบบบริหารจัดการฟาร์ม บันทึกข้อมูลสำคัญของฟาร์ม การเพาะปลูก การจัดการรายได้ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กันระหว่างเกษตรกร และการประเมินสุขภาพพืช K-iQ Application ระบบบริหารจัดการเครื่องจักรกลการเกษตร ตัวช่วยสำหรับธุรกิจรับจ้างที่ต้องการจัดคิวงาน และบริหารจัดการค่าใช้จ่าย KIN RENT บริการเช่าใช้เครื่องจักรกลการเกษตร เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำการเกษตรแต่ยังไม่พร้อมลงทุนเครื่องจักรฯ และ KIN MATCH บริการเช่าเครื่องจักรกลการเกษตรพร้อมคนขับ เพื่อเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการฟาร์มและการใช้เครื่องจักรฯ อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
นอกจากนี้ยังมี เกษตรอินโน มาร์เก็ต (KasetInno Market) แพลตฟอร์มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ และผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็น Highlight สำคัญหนึ่งของเกษตรอินโน โดยจะมี 2 ส่วน ประกอบด้วย แพลตฟอร์ม e-Commerce “เกษตรอินโน มาร์เก็ต” จำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรในเครือข่าย ภายใต้ชื่อสินค้าแบรนด์เกษตรสุข (KasetSook) โดยเรามีความตั้งใจสนับสนุนเกษตรกรในการกระจายผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัย ตลอดจนเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการต้นทุน และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ทำให้เกษตรกรมีโอกาสแข่งขันมากขึ้นในตลาดสินค้าเกษตรพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีสินค้าแบรนด์อื่นๆ จากเกษตรกรในเครือข่าย และส่วนที่สอง คือ แพลตฟอร์ม KUBOTA Store จำหน่ายอะไหล่แท้คูโบต้าและอุปกรณ์การเกษตรอีกด้วย
นางสาวนันทภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราให้ความสำคัญในเรื่องการบริการ และการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการเกษตร เน้นวางแผน และนำเครื่องมือมาใช้ในการบริหารธุรกิจการเกษตรด้วยบุคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจการเกษตร โดยมีแผนการตลาดที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยการให้บริการที่มีคุณค่าและเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างครบวงจร รวมถึงเน้นการสื่อสารออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ลูกค้าของ เกษตรอินโน (KasetInno) หรือ KIN จะไม่จำกัดแค่เพียงเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้คนทุกกลุ่มที่มองเห็นโอกาสใหม่ๆ ในโลกการเกษตร ขยายขีดความสามารถในการเป็นเกษตรกรมืออาชีพ เพื่อมุ่งสู่การเป็น Smart Farming ภายใต้แนวคิดออกแบบโลกเกษตรเพื่อทุกความเป็นไปได้ ซึ่งจะเป็นรูปแบบของแพลตฟอร์มให้บริการด้านนวัตกรรมการเกษตร สอดรับการเปลี่ยนแปลงของโลกการเกษตรยุคใหม่ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างโอกาส และรายได้ที่มั่นคง พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สำหรับเป้าหมายและแผนธุรกิจในอนาคตนั้น เราจะผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าในด้านการเกษตร ตลอดจนประสานความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ผลักดันให้เกษตรกรมีโอกาสในการแข่งขันมากขึ้น ยกระดับภาคการเกษตรของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง”