สำนักงานรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ผู้นำไต้หวัน กล่าวว่า รัฐบาลจะมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาพลังงานสีเขียว, ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ หรือสมาร์ทกริด และเครื่องมือกักเก็บพลังงาน ในการผลักดันเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

“การลดปริมาณก๊าซคาร์บอนในระยะยาว ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่เพื่อสร้างความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น” ไช่ กล่าวที่การประชุมความยั่งยืนเพื่อเฉลิมฉลองวันคุ้มครองโลก

“อุตสาหกรรมไต้หวันเน้นการส่งออก เราจำเป็นต้องเข้าไปในห่วงโซ่อุปทานสีเขียวของโลกให้ได้” เธอกล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว ไต้หวันตั้งใจที่จะทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์สำเร็จในปี 2593 และรัฐบาลให้คำมั่นการใช้เงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ประมาณ 1 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2573 เป็นต้นไป จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายนั้น

ภายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีอนุมัติร่างแก้ไขของกฎหมายสภาพภูมิอากาศ ที่รวมถึงเป้าหมายปล่อยก๊าซเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 และการแนะนำแผนการกำหนดราคาคาร์บอน

ไช่ กล่าวว่า ภายในปี 2593 พลังงานหมุนเวียนควรนับเป็นแหล่งจ่ายไฟของไต้หวันมากกว่า 60% ขณะที่ ไฮโดรเจนควรนับได้ราว 10% และการผลิตพลังงานความร้อนด้วยคาร์บอนอยู่ที่ประมาณ 20%

เมื่อทำการเปรียบเทียบ ในปี 2563 ถ่านหินให้พลังงานไฟฟ้ากับไต้หวันในสัดส่วน 45% ในขณะที่ก๊าซธรรมชาติเหลวอยู่ที่ประมาณ 36% ตามข้อมูลของรัฐบาล

ทางด้านบริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ ผู้ผลิตตามสัญญาจ้างรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้จัดส่งรายใหญ่ของ แอปเปิล กล่าวในวันเดียวกันว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 เช่นกัน และวางแผนที่จะใช้ “พลังงานสีเขียว อย่างน้อย 50%” ภายในปี 2573

เครดิตภาพ : REUTERS