นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ข1 ผังเมืองรวมเมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ รวมระยะทาง 1.925 กม. งบประมาณ 157.85 ล้านบาท ปัจจุบันเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้ประชาชนใช้งานในช่วงต้นปี 67
โครงการดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นบริเวณ กม.ที่ 0+000 เชื่อมจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3256 (ถนนกิ่งแก้ว) ประมาณ กม.ที่ 17+090 ด้านซ้ายไปทางทิศตะวันตกตามแนวถนนคอนกรีตเดิม (สป.4008 หรือ ซอยกิ่งแก้ว 25/1) ตัดผ่านคลองชวด-ลากข้าวและคลองสิงห์โต มีจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณ กม.ที่ 1+925 บรรจบกับถนนของเขตประเวศ กรุงเทพฯ และเชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก
นายอภิรัฐ กล่าวต่อว่า รูปแบบการก่อสร้างเป็นผิวจราจรขนาด 4 ช่องจราจร ความกว้างช่องจราจรละ 3.25 เมตร ทางเท้ากว้างข้างละ 3 เมตร ซึ่งตั้งแต่ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 0+100 ก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก และ ช่วง กม.ที่ 0+100 ถึง กม.ที่ 1+925 ก่อสร้างเป็นผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต พร้อมก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 2 แห่ง ติดตั้งระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยตลอดสายทาง
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 เม.ย.65 ได้จัดประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนก่อนการดำเนินงาน เพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดและแนวทางการดำเนินงาน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ พร้อมลงนามบันทึกความร่วมมือ 3 ฝ่าย ระหว่างเจ้าหน้าที่โครงการ ผู้รับจ้าง และผู้นำชุมชน เพื่อให้โครงการมีความสอดคล้องกับความต้องการของทุกฝ่าย
นายอภิรัฐ กล่าวอีกว่า จ.สมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่ได้รับอิทธิพลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของชุมชนเมือง เนื่องจากมีพื้นที่ตั้งอยู่ติดกรุงเทพมหานค รจึงเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางการคมนาคม ทั้งทางน้ำและทางอากาศ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาโครงข่ายเส้นทางในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงระบบคมนาคมให้สมบูรณ์และสามารถรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ประกอบกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ ทช. สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างและขยายถนนสายกิ่งแก้ว-คลองสิงห์โต
เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กับเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร (ระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3256 หรือถนนกิ่งแก้ว กับถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก) ช่วยให้ประชาชนสามารถเดินทางระหว่างจังหวัดได้อย่างสะดวกปลอดภัยพร้อมกับเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้านำเข้า-ส่งออกสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ให้มีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้นตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม