เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงย่านสำนักงานสาทร ถนนนราธิวาสฯ เริ่มตั้งแต่บริเวณอาคาร Sathorn City Tower ข้ามทางม้าลายบริเวณสวนคลองช่องนนทรี เดินไปยังศูนย์อาหารข้างตึก Empire Tower ถนนนราธิวาส เข้าตึก Food Court ชั้นใต้ดิน

นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจมาดูตลาดและพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจ รวมถึงมาดูหาบเร่แผงลอยด้วย ที่ผ่านมาได้ยินว่ามีการผลักดันกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยเข้าไปในพื้นที่เอกชนที่มีการจัดพื้นที่ไว้รองรับ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีพอสมควร เห็นได้ชัดว่าพื้นที่ดังกล่าวมีระเบียบมากยิ่งขึ้น แต่อาจประสบปัญหาค่าเช่าที่แพง จึงอยากให้ กทม.เข้ามาดูและสำรวจหาพื้นที่ที่เปิดเช่าในราคาไม่แพง เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย และทำให้เกิดความสะดวกบนทางเท้า

ส่วนทางม้าลายบริเวณคลองช่องนนทรี มีความอันตรายพอสมควร เนื่องจากรถที่ผ่านไปมาแถวนี้ค่อนข้างที่จะวิ่งเร็วและไม่หยุดให้กับไฟแดงบริเวณทางม้าลาย จึงเป็นเรื่องที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความชัดเจน รวมถึงจำกัดการใช้ความเร็วของรถ, การจัดช่องจอดรถจักรยานยนต์รอสัญญาณไฟจราจรตามแยกต่างๆ ทั้งหมดต้องคิดหาทางออกเป็นภาพรวม เพราะไม่ได้ใช้การลงทุนมาก แต่จะต้องใช้ความใส่ใจ

เมื่อถามถึงนโยบายทำอย่างไรให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งความปลอดภัยทางเพศ นายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สำคัญ และผู้หญิงอาจมีความเปราะบางมากกว่า ขณะที่ข้อมูลที่ทีมงานสำรวจมาพบตัวเลขที่น่าสนใจว่าผู้ที่ใช้รถเมล์ในการเดินเป็นผู้หญิงร้อยละ 75 ผู้ชายร้อยละ 25 เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทาง ดังนั้น การสร้างความปลอดภัยระหว่างการเดินทางจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น เช่น ฟุตปาธ ไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณป้ายรถเมล์ และทางเข้าถึงบ้าน จำนวนรถเมล์ที่มีความถี่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ต้องดูภาพรวมความปลอดภัยทั้งระบบ ไม่เฉพาะความปลอดภัยของผู้หญิงเท่านั้น

เมื่อถามว่า เหลือเวลาในการหาเสียงอีกประมาณ 30 วัน กระแสตอบรับตอนนี้เป็นอย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า ยังมีจุดอ่อนหลายจุด โดยเฉพาะในชุมชนที่ไม่ได้เข้าถึงโซเชียลไม่รู้จักตน บางคนยังเข้าใจว่าอยู่พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ชี้แจงแล้วตนลงในนามอิสระไม่ได้ลงในนามเพื่อไทยและไม่ได้อยู่เพื่อไทย หลังจากนี้จะต้องลงพื้นที่ภายในชุมชนให้หนักขึ้น เพื่อให้คนภายในชุมชนได้รู้จักตัวตนมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาการลงพื้นที่ต่างๆ ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน มั่นใจว่าเดินมาถูกทางแล้วและถือว่าเป็นโค้งสุดท้ายพร้อมทำงานอย่างเต็มที่

ส่วนโค้งสุดท้ายจะมีการจับมือร่วมทำงานกับ ส.ก. คนใดเป็นพิเศษหรือไม่นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า คงไม่จับมือกับใคร มองว่าไม่ว่าใครก็ตามที่สนับสนุนนโยบายชัชชาติ ถือเป็นเรื่องน่ายินดี เนื่องจากลงสมัครในนามอิสระ.