เมื่อวันจันทร์ที่18 เม.ย. 2565 ทีมทนายความจากโครงการช่วยเหลือนักโทษ ‘Innocent Project’ รับเป็นตัวแทนว่าความให้ เมลิสซา ลูซิโอ วัย 53 ปี ในการยื่นขอผ่อนผันโทษจากคณะกรรมการพิจารณาโทษและทัณฑ์บนของเทกซัส ซึ่งเป็นทางเลือกตามกฎหมายที่เหลืออยู่สำหรับนักโทษหญิงรายนี้

ลูซิโอ ซึ่งเป็นนักโทษประหารและมีกำหนดรับโทษในวันที่ 27 เม.ย. ที่จะถึงนี้ ยืนยันว่าเธอโดนกดดันขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ ในกรณีที่ลูกสาววัย 2 ขวบของเธอเสียชีวิตเมื่อปี 2550 จนเธอทนไม่ไหว ต้องยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆาตกรรมลูกสาวตัวเอง

วาเนสซา พ็อตกิน ซึ่งเป็นตัวแทนจากทีมทนายความกล่าวว่า ลูซิโอ ยื่นขอผ่อนผันโทษประหารและต้องการให้มีการพิจารณาคดีใหม่ เนื่องจากพบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ลูซิโอ โดนสอบปากคำภายใต้ความกดดันและบีบคั้นจากเจ้าหน้าที่ จนเธอต้องยอมรับสารภาพ นอกจากนี้ยังอ้างว่าการเสียชีวิตของลูกสาวของเธอเป็นอุบัติเหตุ โดยลูกสาวของเธอพลัดตกจากบันไดตามที่เธอเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในตอนแรก

พ็อตกิน กล่าวว่าหลักฐานที่ค้นพบใหม่แสดงให้เห็นว่า ลูซิโอ ต้องรับผิดในคดีที่เธอไม่ได้เป็นผู้ก่อ เธอยังเคยยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองมากกว่า 100 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดี ไม่ยอมรับคำพูดของเธอ และยังกล่าวว่าการสอบปากคำจะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าเธอจะยอมรับสารภาพ

การยื่นเรื่องขอผ่อนผันครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของ ลูซิโอ ถ้าหากคณะกรรมการพิจารณาโทษและทัณฑ์บน ศาลอุทธรณ์หรือผู้ว่าการรัฐเทกซัส ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เธอก็ต้องรับโทษประหารด้วยการฉีดยาพิษเข้าสู่ร่างกายตามกำหนด

การเคลื่อนไหวเพื่อขอเลื่อนกำหนดการประหารของ ลูซิโอ ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางและได้รับความสนใจอย่างมาก มีทนายความเกือบ 90 ราย ร่วมกับครอบครัวของเธอ รวมถึงคนดังอย่าง ‘คิม คาร์เดเชียน’ พยายามเรียกร้องขอความเมตตาให้ ลูซิโอ

ลูซิโอ มีลูกทั้งหมด 14 คน เธอโดนจับกุมเมื่อเดือนก.พ. 2550 หลังจากที่เธอโทรฯ แจ้งตำรวจว่าเธอพบร่างของ ‘มารายห์’ ลูกสาววัย 2 ขวบของเธอ หมดสติอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของครอบครัวที่เมืองฮาร์ลิงเกน รัฐเทกซัส

จากการสืบสวนและชันสูตรพบว่า นอกเหนือจากรอยฟกช้ำจากการโดนวัตถุไม่มีคมกระแทกที่ศีรษะแล้ว ยังมีร่องรอยอื่น ๆ ที่บ่งชี้ว่าเป็นสาเหตุการตายของหนูน้อย ซึ่งได้แก่รอยช้ำ รอยข่วนตามร่างกาย และรอยที่เกิดจากการใช้ฟันกัดที่บริเวณด้านหลังของเด็ก ซึ่งทำให้ตำรวจเชื่อว่า มารายห์ โดนฆาตกรรม และพุ่งเป้าไปที่ ลูซิโอ ว่าเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก

ในระหว่างการสอบปากคำยามดึก ลูซิโอ ยังคงยืนยันว่า มารายห์ พลัดตกจากบันไดเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้าที่เธอจะพบลูกสาวหมดสติ แต่หลังจากนั้นประมาณ 3 ชม. เธอก็ยอมรับว่าเคยตีและกัดลูกสาว เมื่อเจ้าหน้าที่กดดันเรื่องรอยกัดบนตัวของ มารายห์

คำสารภาพของ ลูซิโอ กลายเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดี โดยอัยการระบุว่า คำสารภาพเท่ากับเป็นการบ่งชี้ว่า ลูซิโอ เป็นผู้ทำร้ายร่างกายลูกสาวตัวเอง แม้ว่า ลูซิโอ จะไม่เคยยอมรับว่า เธอเป็นคนฆาตกรรมหรือทำร้ายลูกสาวตัวเองอย่างรุนแรงเลยก็ตาม แต่ศาลก็ตัดสินว่าเธอผิดจริงและให้รับโทษประหารชีวิต

ทีมทนายของ ลูซิโอ ระบุว่า เธอต้องรับการสอบปากคำจากเจ้าหน้าที่ถึง 5 คน เป็นเวลานานติดต่อกันถึง 5 ชม. และโดนเจ้าหน้าที่ตะโกนใส่หน้า รวมทั้งตำหนิเธอต่าง ๆ นานาว่า เป็นแม่ที่ไม่ใส่ใจลูก ๆ รวมทั้งชี้นำว่า หากเธอไม่ได้เป็นคนทำผิด ก็แสดงว่าสามีหรือลูกคนใดคนหนึ่งของเธอเป็นคนทำ

ข้อมูลจากโครงการบันทึกคดีที่มีผู้พ้นผิดแห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า 12% ของการลงโทษผู้ต้องหาผิดคนนั้น เกิดการที่ผู้ต้องสงสัยโดนกดดันให้ยอมรับสารภาพความผิดทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำ

แหล่งข่าวและเครดิตภาพ : cbsnews.com