เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 เดินทางลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดน้ำวัดไทร ถนนเอกชัย และตลาดจอมทอง เขตจอมทอง พบปะประชาชน พร้อมรับฟังข้อร้องเรียนปัญหาต่างๆ ข้อเสนอแนะจากพ่อค้าแม่ค้าและบรรดาชาวกรุงเทพฯ ที่มาจับจ่ายซื้อขายสินค้าภายในตลาด พร้อมเล็งให้เปิดตลาดน้ำทั่วกรุงเทพฯ สามารถขายได้ทุกวันและดึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมโปรโมตเสน่ห์ชุมชนริมน้ำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรู้จัก

นายสกลธี เปิดเผยว่า ช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่นานก่อนถึงการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. ตนเตรียมลงพื้นที่ตลาดและชุมชนต่างๆ ใน กทม. โดยช่วงเช้าตั้งใจเดินตลาดเช้า เพราะสามารถพบปะกับพี่น้องประชาชนได้อย่างใกล้ชิด ในขณะที่ช่วงกลางวันออกพบปะพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ที่ทำงานในย่านธุรกิจ นอกจากนี้ในช่วงเย็นจะออกพบปะพี่น้องประชาชนย่านตลาดเย็น เช่น เยาวราช เพื่อให้สามารถพูดคุยกับทุกคนได้ครบทุกกลุ่ม

นายสกลธี เผยต่อว่า จากที่ตนลงพื้นที่ตลาดน้ำวัดไทรวันนี้ เห็นว่าชุมชนตลาดน้ำในกรุงเทพฯ อื่นๆ ยังมีอยู่จำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่มักจะคึกคักในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ทั้งนี้ ตนเห็นว่าตลาดแต่ละแห่งมีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สามารถยกระดับให้สามารถเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ซึ่งถ้ามีโอกาสได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. มีแนวคิดให้ทางเขตเข้ามาส่งเสริม เช่น การจัดกิจกรรมถนนคนเดิน เพื่อให้คนนอกพื้นที่รับรู้

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีคดีเกี่ยวกับเรื่องเพศที่กำลังเป็นที่พูดถึงในสังคม นายสกลธีจะมีนโยบายและแนวทางอย่างไรในการทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองปลอดภัยทางเพศ นายสกลธี กล่าวว่าในส่วนของ กทม. โดยในระดับของโรงเรียน จะต้องปลูกฝังค่านิยม แนวความคิดและให้ความรู้ตั้งแต่เด็กเกี่ยวกับการให้เกียรติผู้หญิงและผู้อื่น แต่ในส่วนของความปลอดภัย ตนมีนโยบายเพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างและเพิ่มจำนวนของกล้องวงจรปิด จากการลงพื้นที่หลายแห่งใน กทม. พบจุดเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอาชญากรรมเยอะมาก ซึ่งตนกำลังจะมีคลิปวิดีโอที่ได้ไปดูตามจุดเสี่ยงต่างๆ และจะเผยแพร่ให้ได้ติดตามรับชม

ส่วนประเด็นการยื่นฟ้อง 2 พิธีกรของช่อง Voice TV ได้แก่ วิโรจน์ อาลี และลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา สืบเนื่องจากการกล่าวด้อยค่า หยาบคายผ่านรายการ Talking Thailand ซึ่งออกอากาศทางแฟนเพจของ Voice TV เมื่อวันที่ 24 มี.ค. และ 11 เม.ย. 2565 ปม อุดมการณ์ทางการเมืองในอดีตนั้น นายสกลธี เปิดเผยว่า ตนได้ปรึกษากับทนายความ และมอบหมายให้ฟ้องต่อศาลอาญาในวันศุกร์ที่ 22 เม.ย. โดยตนขอเรียนตรงๆ ว่า ตนอยู่ในวงการการเมืองมา 16 ปี ปกติไม่เคยยื่นฟ้องใคร ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนหรือประชาชนที่เข้ามาให้ความเห็นหรือติชม แต่ครั้งนี้ตนมองว่ามันเป็นการพูดสร้างความดูหมิ่นและสร้างความเกลียดชัง เชื่อว่าเป็นเหมือนขบวนการที่มาทำลายความน่าเชื่อถือ พร้อมยืนยันว่านี่เป็นเคสแรกในชีวิตที่ตนฟ้องหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหากหลังจากนี้พูดพาดพิงอีก ตนจะฟ้องไปเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม นายสกลธี ยืนยันว่าวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะในเพจเฟซบุ๊กก็จะพบว่ามีคนมาคอยแซวมาคอยแซะอยู่เรื่อยๆ แต่ตนก็รับฟังยอมรับได้ เพราะด้วยความที่เป็นบุคคลสาธารณะและผ่านอะไรมาเยอะ แต่เพียงแค่ในกรณีดังกล่าว เป็นการใช้คำพูดด้วยลักษณะที่เกินกว่าจะรับได้