วันที่ 27 ก.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความเรียกร้องการเคารพสิทธิมนุษยชนหลังคณะกรรมการมรดกโลกมีมติอนุมัติให้อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยนายพิธาอยากให้สังคมตระหนักคุณค่าของการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางธรรมชาติเท่ากับเรื่องสิทธิมนุษยชนและสิทธิของชนเผ่า ชาติพันธุ์ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียโอกาสสำคัญในการพัฒนามาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง การยกระดับการมีส่วนร่วม สิทธิของชุมชนและประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีส่วนการอนุรักษ์ป่าแก่งกระจาน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องได้รับความสนใจ
ทั้งนี้ นายพิธา เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการสืบหาความจริงในเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการของรัฐทั้งหมด เช่น ปฏิบัติการพิทักษ์ลุ่มน้ำเพชร ยุทธการตะนาวศรี หรือ กรณีคดีความที่ยังไม่มีความคืบหน้า ในกรณีการถูกบังคับให้สูญหาย นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ และ คดีฆาตกรรมนายทัศน์กมล โอบอ้อม หรือ อาจารย์ป๊อด ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้ประสานงานการเรียกร้องสิทธิให้กับชาวบ้านในพื้นที่ รัฐบาลควรยกระดับชีวิตความเป็นอยู่
นอกจากนี้รัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจว่าต่อจากนี้การดำเนินนโยบายด้านการอนุรักษ์ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต้องยกระดับสู่ “กระบวนทัศน์ใหม่” ของพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (New paradigm for protected areas) ที่วางอยู่บนหลักการของการยอมรับสิทธิของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่นในการจัดการป่าอนุรักษ์ หรือที่เรียกกันว่า พื้นที่ป่าอนุรักษ์ของชนพื้นเมืองและชุมชน (Indigenous People’s Protected Areas and Community Conserved Areas– ICCAs) ให้สมศักดิ์ศรีและมาตรฐานนานาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในเขตพื้นที่มรดกโลก
“หากรัฐบาลและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องยังมีทัศนคติและปฏิบัติงานอย่างเดิม ไม่มีการปรับปรุงตามข้อกังวล ข้อทักท้วงที่หน่วยงานต่างๆ ที่ได้กล่าวถึงข้างต้น ก็รังแต่จะก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติขึ้นอย่างไม่รู้จบ เป็นรอยด่างในมรดกโลกที่กลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าทั่วประเทศและสังคมโลกกระอักกระอ่วนที่จะชื่นชม”