ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหลักวอ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ใช้เวลาว่างจากการทำไร่ทำนา ออกหาแหย่ไข่มดแดง เพื่อนำมาประกอบอาหารรับประทานในครอบครัว และจำหน่ายเป็นรายได้เสริม หลังจากที่ช่วงนี้มดแดงได้ทำรังและมีไข่อยู่บนต้นไม้ ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะบริเวณป่าชุมชนตามถนนหมู่บ้านที่ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ไว้ จนทุกวันนี้ได้กลายมาเป็นแหล่งอาหารของชุมชน ซึ่งมีของป่าให้ชาวบ้านได้เก็บไปรับประทานลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ตลอดทั้งปี อาทิ เห็ดป่า หน่อไม้ แมงจีนูน อึ่งอ่าง กบ เขียด และไข่มดแดง เป็นต้น

น.ส.ดวง ทองสลัด อายุ 61 ปี กล่าวว่า ในช่วงนี้เว้นว่างจากการทำไร่ทำนา จึงออกหาแหย่ไข่มดแดงมาไว้รับประทานและแบ่งปันให้กับญาติสนิทมิตรสหาย พร้อมกับนำไปขายที่ตลาด แต่ละวันถ้าหากตั้งใจเดินหาสอยตลอดทั้งวันจะได้วันละ 3-5 กก. ซึ่งก็มีชาวบ้านบางคนตั้งใจที่จะออกหาสอยไข่มดแดงอย่างจริงจัง เพื่อนำมาจำหน่าย ราคา กก.ละ 400-500 บาท สร้างรายได้เสริมไม่ต่ำกว่า 1,500-2,000 บาท

โดยวิธีหาไข่มดแดงแบบใช้น้ำและไล่ตัวมดแดงให้แยกออกจากไข่ ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อให้กลับไปทำรังใหม่ ทำให้มีการเพาะขยายพันธุ์ต่อไป ไข่มดแดงเป็นอาหารป่าที่หากินได้ยาก จะมีให้ได้รับประทานปีละครั้งเท่านั้น สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย ทั้ง ต้ม ยำ แกง

ทั้งนี้ จากการออกสำรวจตามท้องตลาด พบว่าไข่มดแดงมีราคาแพงมากกว่าเนื้อหมู เนื้อวัวหลายเท่า ประมาณ กก.ละ 500 บาทขึ้นไป ซึ่งราคาของไข่มดแดงขึ้นอยู่ที่ความเต่งตึงของตัวไข่ ทางพ่อค้าแม่ขายจะรับซื้อมาแบ่งขายกองละ 20-100 บาท ลูกค้านิยมซื้อไปปรุงเป็นอาหาร ตามความชอบ เนื่องจากมีรสชาติอร่อย