เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) พล.อ.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทย ผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมทำงานเต็มที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้รับความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ประทับใจ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ได้กำหนดว่า ทุกขั้นตอนต้องให้ผู้โดยสารดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที
พล.อ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า จุดที่ผู้โดยสารนัดพบกับเจ้าหน้าที่โรงแรม เป็นจุดสำคัญซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาความแออัด โดยขณะนี้ได้เร่งแก้ไขให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วแล้ว อาทิ การเปิดประตูเข้า-ออกอาคารผู้โดยสารเพิ่มขึ้น, การเรียงชื่อโรงแรมตามตัวอักษร, ให้โรงแรมแจ้งผู้โดยสารตั้งแต่ต้นทางว่าเคาน์เตอร์ของโรงแรมอยู่หมายเลขใด และติด QR Code บริเวณจุดสายพานรอรับกระเป๋า อย่างไรก็ตามได้กำชับทางโรงแรมแล้วว่า หากโรงแรมปล่อยให้ผู้โดยสารรอคอยเกิน 15 นาที จัดรถมารับไม่เพียงพอ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะมีมาตรการลงโทษด้วยการตัดโรงแรมนั้นออกจากโครงการโรงแรมกักตัวทางเลือกสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย AQ / SHA Extra Plus
ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการ ทสภ. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 65 ระหว่างวันที่ 9-18 เม.ย.65 มีเที่ยวบินเข้า-ออก ทสภ. 5,490 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารประมาณ 6 แสนคน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 2.5 แสนคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 3.5 แสนคน ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่ามีการขยายตัวของผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ยอมรับว่าช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีบางโรงแรมทำให้ผู้โดยสารต้องรอเกิน 15 นาที ทาง ทสภ. ขอน้อมรับ และขอภัย โดยได้ประชุมร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อปรับแก้ไข และเริ่มนำมาตรการลงโทษมาบังคับใช้แล้ว ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้การบริการเกิดความประทับใจ และร่วมส่งเสริมเศรษฐกิจให้ประเทศขับเคลื่อนต่อไป.