ในการรายงานผลประกอบการครั้งล่าสุด ‘เน็ตฟลิกซ์’ ยอมรับว่าในไตรมาสแรกของปี 2565 บริษัทมียอดสมาชิกลดลงจากเดิมถึง 200,000 ราย ซึ่งผิดไปจากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 2.5 ล้านราย โดยอ้างสาเหตุจากภาวะเงินเฟ้อและผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ต้องหยุดการให้บริการในรัสเซียและสูญเสียสมาชิกไปเป็นจำนวนมากถึง 700,000 ราย

มูลค่าหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทของเน็ตฟลิกซ์เมื่อวันอังคารที่ 19 เม.ย. หลังปิดตลาด ตกลงถึง 26% และมูลค่าทรัพย์สินในตลาดหุ้นหายไปราย 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.35 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัท

การสูญเสียฐานสมาชิกครั้งใหญ่ทำให้เน็ตฟลิกซ์ต้องปรับแผนการโดยเตรียมเสนอแผนการให้บริการแบบมีโฆษณา ซึ่งจะเก็บค่าสมาชิกในราคาที่ถูกลง ซึ่งอ้างอิงจากแผนการที่คล้ายคลึงกันของบริษัทคู่แข่งอย่าง เอชบีโอแม็กซ์ และ ดิสนีย์พลัส

เน็ตฟลิกซ์ยังคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาสหน้าว่าอาจจะต้องสูญเสียสมาชิกไปอีกกว่า 2 ล้านราย แม้จะมีซีรีส์ยอดนิยมของทางช่องเตรียมฉาย เช่น ‘Stranger Things’ และ ‘Ozark’ รวมถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ ‘The Grey Man’ ซึ่งนำแสดงโดย คริส อีแวนส์ และ ไรอัน กอสลิง

ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนมองว่าเน็ตฟลิกซ์ต้องดิ้นรนอย่างหนักและยอดสมาชิกที่ลดลงนั้นมีสาเหตุหลายประการ เช่น ภาวะถึงจุดอิ่มตัวของการให้บริการ สถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งหน้าใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ตลอดจนพฤติกรรที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภครุ่นใหม่ ซึ่งให้ความสนใจต่อการเล่นเกมบนแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ มากกว่าการรับชมคอนเทนต์จากบริการสตรีมมิ่ง อีกทั้งมีความนิยมใช้บริการสตรีมมิ่งจากแพลตฟอร์มที่ให้บริการฟรี เช่น ติ๊กต็อก, ยูทูบ มากกว่า

เครดิตภาพ : Reuters