สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ว่าชาวศรีลังการวมตัวเดินขบวนประท้วงไปตามท้องถนน ในกรุงโคลัมโบ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ต่อความโกรธแค้นอย่างหนักต่อวิกฤติเศรษฐกิจ และการที่ประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา ยังคงปฏิเสธข้อเรียกร้องของประชาชน ในการลาออกจากตำแหน่ง แต่ในทางกลับกัน แต่งตั้งรัฐมนตรีเพิ่มอีก 17 คน โดยยังคงมอบบางตำแหน่งให้กับเครือญาติ และพวกพ้องทางการเมืองอีกด้วย

ชาวศรีลังกาชุมนุมขับไล่ประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา ที่หน้าทำเนียบ ในกรุงโคลัมโบ


ทั้งนี้ สถานการณ์ประท้วงครั้งนี้ มีความรุนแรงที่สุด บริเวณถนนหลวงและเส้นทางรถไฟ เชื่อมระหว่างกรุงโคลัมโบกับเมืองแคนดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้ทั้งกระสุนจริงและแก๊สน้ำตาเพื่อควบคุมฝูงชน มีรายงานผู้ถูกยิงเสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 16 คน ขณะที่ตำรวจให้ความเห็นเพียงว่า จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เนื่องจากผู้ประท้วงพยายามจุดไฟเผารถบรรทุกเชื้อเพลิงที่แล่นผ่านมา

ชาวศรีลังกานำจักรยานยนต์ของตัวเอง มาต่อแถวเติมเชื้อเพลิง ในกรุงโคลัมโบ


ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงโคลัมโบออกแถลงการณ์ “แสดงความเสียใจ” ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วงรุนแรงทางการเมืองและเศรษฐกิจ พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวน “ด้วยความโปร่งใส”


ปัจจุบัน ศรีลังกาเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจระดับเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร เมื่อปี 2491 ต้องมีการดับไฟวันละ 13 ชั่วโมง เพื่อประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งรัฐบาลมีเงินไม่เพียงพอนำเข้าจากต่างประเทศ


ด้านนายนันดาลัล วีระสิงห์ ผู้ว่าการธนาคารกลางศรีลังกา ประกาศการพักชำระหนี้ต่างประเทศมูลค่า 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.72 ล้านล้านบาท) ซึ่งมีกำหนดชำระ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปีนี้ (ราว 135,280 ล้านบาท) ส่วนตลาดหลักทรัพย์โคลัมโบระงับการซื้อขายอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : REUTERS