เมื่อต้นเดือน เม.ย. แก๊งโจรใจกล้าลงมือรื้อทำลายสะพานเหล็กความยาว 60 ฟุต หนัก 550 ตัน ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย เพื่อถอดโครงสร้างที่เป็นเหล็กเอาไปขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมคนร้าย ซึ่งมี 2 คนในกลุ่ม ที่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการและนักการเมืองท้องถิ่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโส อาชิช ภารติ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า ขณะนี้ ทางการตามจับกุมตัวคนร้ายได้ทั้งหมด 8 คน ซึ่งมีหัวหน้าคนงานที่รับจ้างหน่วยงานของกรมชลประทานอยู่ในกลุ่มคนร้ายขโมยสะพานครั้งนี้ด้วย  

แก๊งโจรขโมยสะพานโดยสมรู้ร่วมคิดกับหัวหน้าคนงาน ทางตำรวจได้ติดตามจนเจอรางเหล็กที่โดนขโมยไปเป็นจำนวน 247 กก. โดยประมาณ รวมถึงวัสดุอื่น ๆ

สะพานเหล็กดังกล่าวเป็นสะพานข้ามคลองอะรา-ซอนในรัฐพิหาร ซึ่งอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากไม่มีการใช้งานมากว่า 20 ปี โดยตัวสะพานโดนรื้อออกจนหมดภายในเวลาเพียง 3 วัน

แก๊งโจรใช้วิธีสวมเครื่องแบบพนักงานของรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยจากผู้พบเห็นในขณะที่ลงมือรื้อถอนอย่างอุกอาจในช่วงกลางวัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 07.00 น. ทุกวัน จนกระทั่งรื้อถอนสำเร็จ โดยใช้รถขุดและตัดชิ้นส่วนที่เป็นเหล็กด้วยการใช้ก๊าซและเปลวไฟ

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านอมิยาวาร์ ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตใด ๆ เกี่ยวกับการรื้อถอนสะพานและไม่เคยคิดว่าจะเป็นการขโมยครั้งใหญ่ ชาวบ้านบางรายที่รู้สึกดีใจด้วยซ้ำ ที่มีการรื้อถอนสะพานที่ผุพังออกไปเสียที

ในวันที่ 5 เม.ย. ปวัน กุมาร ชาวบ้านจากหมู่บ้านใกล้เคียงอีกแห่งหนึ่ง เป็นคนโทรฯ แจ้งตำรวจเรื่องการรื้อสะพานที่ดูน่าสงสัย กุมารไปพบเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพราะต้องการทราบเหตุผลที่การรื้อถอนสะพาน ไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติที่ถูกต้อง ซึ่งก็คือการเปิดประมูลให้ผู้รับเหมายื่นข้อเสนอราคาการรื้อถอนก่อนที่จะลงมือทำ

เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทำการสืบสวน หลังจากนั้นก็รีบไปตรวจค้นที่สะพานเมื่อพบว่าไม่มีผู้บริหารหน่วยงานราชการท้องถิ่นออกคำสั่งให้รื้อสะพานแต่อย่างใด และจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด 8 คน ซึ่งในกลุ่มนี้มีทั้งคนงานในโรงงานเศษเหล็ก พนักงานรับจ้างของหน่วยงานราชการและนักการเมืองท้องถิ่น

ตามรายงานของผู้สื่อข่าว การนำเศษเหล็กไปขายให้โรงงานต่าง ๆ อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นช่องทางที่สามารถทำเงินได้สูงในอินเดีย

แหล่งข่าวและเครดิตภาพ : Insider.com, BBC