เมื่อวันที่ 27 ก.ค. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดผยว่า กรณีที่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ตรวจหาเชื้อแบบ Rapid Antigen Test Kit (ATK) แล้วพบว่า มีผลเป็นบวกให้เข้าระบบกักตัวที่บ้าน หรือกักตัวที่ชุมชนเลยโดยไม่ต้องผ่านการตรวจแบบ RT-PCR ก่อน เหมือนที่ผ่านมาว่า เห็นด้วยกับวิธีการนี้ เพราะจะช่วยทำให้ผู้ติดเชื้อจากการตรวจ ATK เบื้องต้นมีที่แยกตัวไปอยู่เฉพาะในฐานะเป็นผู้ติดเชื้ออยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสจะนำเชื้อไปแพร่ระบาดที่อื่นต่อไปได้ ถ้าไม่มีที่รองรับที่ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาผู้ผ่านการตรวจ ATK จะเข้าสู่การรักษาได้ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการตรวจและต้องรอผลตรวจ 1-2 วัน จึงทำให้ผู้ติดเชื้อจากการตรวจ ATK ไม่มีที่รองรับระหว่างที่รอ ต้องกลับบ้านไปใช้ชีวิตปกติ ถ้าเป็นคนยากคนจนที่ต้องหาเช้ากินค่ำก็ต้องออกไปทำงานหารายได้ ทำให้มีโอกาสออกไปแพร่เชื้อเพิ่มมากขึ้น
“ที่ผ่านมาพวกเราอดีต ส.ส. อดีต ส.ก. อดีต ส.ข. ตัวแทนพรรคที่ทำงานดูแลชาวบ้านในพื้นที่พบเห็นปัญหานี้มาโดยตลอด และพยายามแจ้งให้ผู้รับผิดชอบรีบแก้ไข วันนี้จึงเห็นด้วยที่ ศบค. แก้ไขให้ผู้ป่วยที่ตรวจหาเชื้อแบบ ATK หากผลเป็นบวกให้ติดต่อโรงพยาบาลที่ทำการตรวจเพื่อนำเข้าสู่ระบบ Home Isolation หรือการกักตัวที่บ้าน และ Community Isolation หรือการแยกกักตัวที่ชุมชน แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ก็คือผู้ติดเชื้อที่อยู่ในชุมชนแออัดซึ่งมักอยู่แออัดกันหลายคนในห้องเล็กๆ ทำให้ใช้ระบบกักตัวที่บ้านไม่ได้แน่นอน คนกลุ่มนี้จึงควรนำเข้าระบบ Community Isolation หรือการแยกกักตัวที่ชุมชน” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวอีกว่า มีข้อเสนอให้ ศบค.พิจารณาดังนี้ 1.เร่งเพิ่มจำนวนสถานที่แยกกักตัวที่ชุมชนให้เพียงพอ เพราะมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่ผ่านการตรวจหาเชื้อแบบ ATK จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น 2.สถานที่แยกกักตัวในชุมชนต้องมีความพร้อมที่จะดูแลผู้ติดเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ และ 3.สถานที่แยกกักตัวที่ชุมชนบางแห่งอาจมีผู้ติดเชื้อที่รอผลตรวจ RT-CPR อยู่ก่อนแล้ว เมื่อมีผู้ติดเชื้อเข้ามาใหม่ อาจต้องจัดการไม่ให้ปะปนกัน เพราะคนกลุ่มนี้ทั้งหมดเมื่อตรวจ RT-PCR อย่างละเอียดแล้วอาจมีผลเป็นผู้ไม่ติดเชื้อก็ได้ ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นว่าข้อเสนอจากการพบเห็นปัญหาจากการปฏิบัติจริงในพื้นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของทางราชการและผู้เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ชะลอตัวลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์วิกฤติโควิดคลี่คลายได้ในที่สุด