สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่าทางการจังหวัดควาซูลู-นาทัล ตั้งอยู่ทางตะวันออกของแอฟริกาใต้ และเป็นสถานที่ตั้งของเมืองเดอร์บัน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ รายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในพื้นที่ ซึ่งเป็นผลจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 443 ราย แต่ยังคงมีผู้สูญหายตามรายชื่ออีกอย่างน้อย 63 คน

เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาผู้สูญหาย ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเมืองเดอร์บันของแอฟริกาใต้


ขณะที่มีการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจไว้ในเบื้องต้น อยู่ที่มากกว่า 10,000 ล้านแรนด์แอฟริกาใต้ (ราว 23,225.89 ล้านบาท)

ทั้งนี้ จังหวัดควาซูลู-นาทัล เผชิญกับฝนตกหนักที่สุดในรอบ 6 ทศวรรษ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยในรอบ 48 ชั่วโมงล่าสุด จนถึงวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา จังหวัดควาซูลู-นาทัล มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 450 มิลลิเมตร หรือเกือบครึ่งของปริมาณฝนเฉลี่ยตลอดทั้งปี ซึ่งอยู่ที่ 1,009 มิลลิเมตร


ปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ระบบโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่างพังทลาย และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ด้านหน่วยกู้ภัยยืนยัน ยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มกำลังตลอด 24 ชั่วโมง

ชาวบ้านตกปลา ที่แม่น้ำสายหนึ่ง ในเมืองอุมลาซี ใกล้กับเมืองเดอร์บันของแอฟริกาใต้


ด้านประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ผู้นำแอฟริกาใต้ ซึ่งลงพื้นที่จังหวัดควาซูลู-นาทัล เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอมรับและกล่าวเตือนทุกฝ่าย ว่าภัยธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นกับจังหวัดควาซูลู-นาทัล ในครั้งนี้ เป็นผลจากภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และยิ่งตอกย้ำว่า ความพยายามเพื่อบรรเทาความรุนแรงของปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก เป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามและชะลอเวลาได้อีกต่อไป.

เครดิตภาพ : REUTERS