เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ตลาดริมบึง เขตหลักสี่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และนายกรุณพล เทียนสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ พรรคก้าวไกล ร่วมลงพื้นที่หาเสียงพบปะชาวบ้าน

จากนั้น นายวิโรจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้พูดคุยกับชาวบ้านเรื่องการใช้งบประมาณอย่างเป็นธรรมในการจัดการขยะของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อถามว่าประชาชนในหลายพื้นที่ยังสะท้อนความล่าช้าของรถเก็บขยะ กทม. จนทำให้เอกชน หรือชาวบ้านบางที่ ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง นายวิโรจน์ กล่าวว่า นี่คือคำถามที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเราไปดูหลังห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ปรากฏว่ารถขยะของ กทม.ไปดูแลและให้บริการตรงเวลา มีความถี่ที่สูงมาก นี่คือความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น การจัดการขยะต้องจัดการในภาพรวม ทั้งคนที่อาจจะมีกำลังทรัพย์ และประชาชนทั่วไป จะต้องได้รับการดูแลที่ดีเสมอกัน แต่การเอาทรัพยากรที่เป็นเงินภาษี ไปดูแลนายทุนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง โดยที่เขาจ่ายค่าขยะแบบถูกมาก ดีแบบพรีเมียมเกินไปแบบนี้ มันก็ต้องตอบคำถามของประชาชนที่อยู่ตามครัวเรือนด้วย

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตอนนี้กทม.เรามีปัญหาการจัดเก็บรายได้ ค่าขยะ รวมถึงการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่นายทุนห้าง นายทุนค้าปลีก นายทุนอสังหาฯ เอาไปซอยเป็นที่ดินเล็ก ๆ แล้วให้บริษัทลูก ถือครองทำเป็นที่ดินตาบอด เพื่อให้ราคาประมูลต่ำลง จะได้จ่ายภาษีที่ดินฯน้อยลง รวมทั้งเอาที่ดินไปปลูกกล้วย ปลูกมะนาวด้วย แล้วล้อมรั้วลวดหนาม ก็เพื่อเลี่ยงภาษีที่ดิน เป็นต้น แล้วเราก็จะหลอนตัวเอง อยู่กับมายาคติว่า กทม.มีเงินไม่มากพอที่จะจัดสวัสดิการ ต้องรอให้เศรษฐกิจดีก่อน จะบ่นอยู่กับวาทกรรมเดิมๆ เช่นเศรษฐกิจไม่ดี ยังจัดสวัสดิการให้ครบถ้วนไม่ได้ แต่ตนกลับคิดว่า สวัสดิการมาคู่กับเศรษฐกิจที่ดี ไม่ใช่เศรษฐกิจดีก่อนถึงจัดสวัสดิการให้กับประชาชน