ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ทำให้สถานการณ์การออกกำลังกายของประชาชนคนไทยจำเป็นต้องรับการควบคุมจากภาครัฐต่อไป ขณะที่ หน่วยงานเรื่องของกีฬาอย่างกรมพลศึกษา ยังคงเดินหน้าสานต่อภารกิจในการส่งเสริม สนับสนุนการมีสุขภาพที่ดีของประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย โดยสนับสนุนให้ประชาชนใช้กิจกรรมการออกกำลังกายเป็นสื่อในการดูแลสุขภาพและส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกายอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงได้จัดกิจกรรม “ประกวดรูปแบบออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ ประจำปี 2565” เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ เนื่องจากปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างสมบูรณ์แบบ

ตลอดช่วงที่ผ่านมา กรมพลศึกษา มุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ทำให้สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายด้วยกิจกรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนในชุมชน ซึ่งนอกจากจะช่วยอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นแล้ว ยังช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้สูงอายุหันมาสนใจดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายในรูปแบบที่ตนเองคุ้นเคยให้ได้ผลดีต่อสุขภาพและสมรรถภาพทางกายเพิ่มมากขึ้น

สำหรับรูปแบบการจัดกิจกรรม “ประกวดรูปแบบออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ ประจำปี 2565” เป็นการจัดอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกวดมาใช้วิธีการตัดสินรอบชิงชนะเลิศจากคลิปผู้เข้าประกวดที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว 30 ทีม ไม่ต้องเดินทางเข้ามาประกวดรอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงเทพมหานครเหมือนที่ผ่านมา เพื่อความปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

จากรอบคัดเลือกมีผู้สูงอายุจากทั่วประเทศ สนใจส่งคลิปเข้าประกวดมากกว่า 60 ทีม โดยคณะกรรมการได้ตัดสินรอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 10-11 มี.ค.ที่ผ่านมา และได้ทีมผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ จำนวน 30 ทีม ผลของการประกวดในครั้งนี้จะนำไปสู่การมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืนของผู้สูงอายุ โดยใช้การออกกำลังกายเป็นพื้นฐานของการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยังได้นำเสนอภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ผ่านการออกกำลังกายที่มีความสวยงามและได้ประโยชน์ทั้งร่ายกาย และจิตใจ

สรุปผลการตัดสินรอบชิงชนะเลิศ “ประกวดรูปแบบออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ ประจำปี 2565” ที่เสร็จสิ้นไปแล้วจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เมื่อวันที่ 7-8 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า รางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 เป็นของ ทีมชุมแพ จ.ขอนแก่น อันดับ 2 ทีมไทยทรงดำ สระกระเทียม จ.นครปฐม อันดับ 3 ทีมชมรมผู้สูงอายุจังหวัดตรัง A จ.ตรัง รางวัลชมเชย ได้แก่ ทีมชมรมสุขภาพดีที่ริมโขง จ.บึงกาฬ, ทีมหริภุญชัย จ.ลำพูน และรางวัลขวัญใจมหาชน เป็นของ ทีมชมรมออกกำลังกายโรงพยาบาลนครปฐม จ.นครปฐม

“ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ กรมพลศึกษา พยายามขับเคลื่อนกระตุ้นให้ประชาชนคนไทยรักการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ที่สำคัญยังเป็นการสร้างกิจกรรมลดความตึงเครียดให้ประชาชนในห้วงโควิด-19 ยังคงปั่นป่วนคนไทย รวมไปถึงชาวโลกอยู่ในปัจจุบัน” ดร.นิวัตน์ กล่าวทิ้งท้าย