เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ศูนย์วิทยุกู้ภัยสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสีแดงเข้มและได้มีอาการปวดหัวรู้สึกว่ามีไข้ จึงได้ประสานโรงพยาบาลสุรินทร์พร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยสุรินทร์ รีบรุดมายังสถานีรถไฟเพื่อตรวจสอบพร้อมกับรับไปทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพบเป็นหญิง 2 ราย ทราบชื่อต่อมาว่าชื่อนางเอ(นามสมมุติ) อายุ 43 ปี มีบ้านพักใน อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีอาการป่วยมา 1 อาทิตย์แล้ว ได้ทานยาฟ้าทลายโจรมาตลอด สอบถามทราบว่ามาจากกรุงเทพฯรถขบวน 135 กรุงเทพ-อุบลราชธานี นั่งมาตู้ที่ 3 ออกจากกรุงเทพฯเวลา 06.40 น. มาถึง จ.สุรินทร์ 15.07 น. ส่วนคนที่นั่งอยู่ในตู้เดียวกันทราบชื่อต่อมาชื่อนางบี (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี มีบ้านพักใน อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ มีอาการไข้สูงปากไม่รับรส
สอบถามทราบว่ามาจาก จ.สมุทรสาคร ซึ่งทั้งสองคนได้มาจากพื้นที่เสี่ยงสีแดงเข้ม และจากสภาพภายนอกที่ทีมข่าวเห็นทั้งสองรายมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย หน้าแดงและซึม เจ้าหน้าที่กู้ภัยสุรินทร์ได้สอบประวัติเบื้องต้นและได้แจ้งไปยังโรงพยาบาลสุรินทร์ให้มารับตัวแต่รถไม่ว่างออกไปรับผู้ป่วย จึงได้ให้รถกู้ภัยสุรินทร์มารับส่งโรงพยาบาลสุรินทร์เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส โควิด-19
นางบี กล่าวว่า ตนป่วยเป็นไข้มาได้ 2-3 วันแล้ว และมีอาการไม่ดีผิดปกติ ตอนนี้ปวดหัวมีไข้และปากไม่รับรสชาติ ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ที่ สมุทรสาคร ขอเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดจากโรงพยาบาลที่มีประกันสังคมอยู่หลายวัน แต่ไม่ได้รับคิวตรวจสักที ไปที่ไหนก็ไม่ได้ตรวจ เพราะคิวเต็มทุกวัน ตนจึงตัดสินใจจะกลับบ้านที่สุรินทร์ เพราะพี่สาวและแม่ก็บอกให้กลับมาบ้านเรา ซึ่งอยู่ในอำเภอชุพลบุรี ตนจึงเดินทางขึ้นรถไฟกลับบ้านมายังสุรินทร์ เพื่อจะมารักษาอาการป่วยของตน เมื่อถึงสุรินทร์แล้ว ตนรู้สึกอุ่นใจขึ้นเมื่อมาถึงบ้านเกิด
ด้านนางเอ กล่าวว่า ตนเองอยู่ที่กรุงเทพฯ ป่วยไม่สบายมาแล้วเป็นอาทิตย์ กินแต่ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร อาการก็ยังไม่ดีขึ้น และยังไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เช่นกัน จึงตัดสินใจกลับมาบ้านที่ อ.เมือง จ. สุรินทร์ เพื่อจะมาเข้ารับการตรวจรักษาที่บ้านเกิด
ด้านน.ส.กัญญาภัทร ใจดี เจ้าหน้าที่ลูกจ้างสมาร์ททีมที่ว่าการอำเภอเมืองสุรินทร์ (TST) กล่าวว่า ตนเองได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ จนถึงขบวนรถไฟกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ขบวนที่ 135 ที่ว่าจะมีขบวนพาผู้ป่วยกลับบ้านแต่ได้ล้มเลิกไปแล้ว ก็ได้ตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทั้งสองคนตามปกติ และสังเกตเห็นว่า ผู้โดยสารหญิงทั้งสองคนกำลังนั่งรอใครอยู่ จึงสอบถามถึงได้รู้ว่า ผู้โดยสารหญิงทั้งสองคนเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง นั่งมาตู้ที่ 3 ทั้งสองคน และมีอาการป่วยมาหลายวัน จึงให้ทั้งสองรายนั่งพักคอยรอเจ้าหน้าที่มารับตัว และได้โทรประสานทางปกครองจังหวัดและกู้ภัยสุรินทร์ให้มารับตัวผู้ป่วยทั้งสองคน ไปทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต่อไป โดยตนและเจ้าหน้าที่ที่ทำการคัดกรอง ก็ระมัดระวังเว้นระยะห่างกับผู้ป่วยทั้งสองรายตลอดเวลาที่อยู่ในสถานีรถไฟ.