เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้ลงนามความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว (สธทท.), บริษัท ซี.ซี.ที. เอ็กซ์เพรส จำกัด และแตงโมทัวร์ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ “#เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์” โดยจัดแพ็กเกจท่องเที่ยวนำผู้โดยสารบินตรงจากกรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานดอนเมือง) สู่ อ.เบตง จ.ยะลา (ท่าอากาศยานเบตง) เพื่อสัมผัสความงดงามของแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ อ.เบตง จ.ยะลา

นายวุฒิภูมิ กล่าวต่อว่า สายการบินนกแอร์จะกลับมาให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์แบบประจำอีกครั้ง ด้วยเครื่องบินแบบใบพัด Q400 จำนวน 86 ที่นั่ง โดยจะเริ่มทำการบินเส้นทาง กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-เบตง จ.ยะลา ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.65 ให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันอังคาร ศุกร์ และอาทิตย์ เที่ยวบินขาไป DD622 ออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 10.00 น. ถึงที่ท่าอากาศยานเบตง เวลา 11.45 น. และเที่ยวบินขากลับ DD623 ออกจากท่าอากาศยานเบตง เวลา 12.15 น. ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 14.00 น. บัตรโดยสารเริ่มต้นที่ 3,400 บาท/เที่ยว ให้น้ำหนักกระเป๋าฟรี 10 กิโลกรัม ทั้งนี้ผู้โดยสารสามารถจองแพ็กเกจเที่ยว #เบตง หรอยแรง แหล่งใต้ สไตล์นกแอร์” 3 วัน 2 คืน ได้ในราคาเริ่มต้น 9,900 บาท โดยตลอด 3 เดือนนี้จะไม่มีหยุดบินแน่นอน

นายวุฒิภูมิ กล่าวอีกว่า ความร่วมมือครั้งนี้ มีระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งแต่ละเที่ยวบินภาคเอกชนได้ซื้อที่นั่ง (Blok seat) จากสายการบินนกแอร์ เพื่อไปทำแพ็กเกจทัวร์แล้วประมาณ 60 ที่นั่ง ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 26 ที่นั่ง สายการบินจะเป็นผู้จำหน่ายตั๋วเอง อย่างไรก็ตามแต่ละเที่ยวบินคงไม่สามารถเปิดจำหน่ายบัตรผู้โดยสารได้เต็มลำ 86 ที่นั่งเพราะเครื่องบินต้องบรรทุกน้ำมันสำหรับใช้ขากลับด้วย ดังนั้นคาดว่าอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (โหลดแฟกเตอร์) จะอยู่ที่ประมาณ 75% ส่วนแผนการดำเนินงานหลังจาก 3 เดือนนั้น ยังคงรอการสนับสนุนการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบิน จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมท่าอากาศยาน (ทย.), บริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เพื่อช่วยลดต้นทุนในการปฏิบัติการบิน และจะทำให้บัตรโดยสารมีราคาถูกลงด้วย

นายวุฒิภูมิ กล่าวด้วยว่า สำหรับค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบิน อาทิ ค่าบริการขึ้นลงของอากาศยาน, ค่าบริการที่เก็บ และจอดอากาศยาน, ค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC), ค่าเช่าสำนักงานและเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสาร, ค่าบริการการทำการบินตามเส้นทางบิน, ค่าบริการทำการบินในเขตสนามบิน และประชิดสนามบิน, การสนับสนุนจุดบริการน้ำเชื้อเพลิงอากาศยานถาวร และการผ่อนปรนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน โดยจะขอสนับสนุนเป็นเวลา 3-5 ปี ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้ว่า ทย. จะสนับสนุนด้วยการลดค่าบริการขึ้นลงของอากาศยาน และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน 80% รวมถึงลดค่าเช่าพื้นที่ในอาคารสำหรับสำนักงานของสายการบิน 50% แต่ก็ยังไม่สามารถลดต้นทุนการปฏิบัติการบินได้อย่างมีนัยสำคัญ

ด้านนายวิชิต ประกอบโกศล ประธานบริษัท ซี.ซี.ที.เอ็กซเพรส จำกัด กล่าวว่า ได้เริ่มเปิดให้จองแพ็กเกจทัวร์เส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า เสียงตอบรับดีมาก บางช่วงเวลาตั๋วเต็มแล้วอาทิ วันที่ 8-10 พ.ค.65 ส่วนวันที่ 29 เม.ย.-1 พ.ค.65 ใกล้เต็มแล้ว ซึ่งผู้ที่จองทัวร์เข้ามา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสูงวัย และกลุ่มบริษัทต่างๆ ทั้งนี้คาดว่าตลอด 3 เดือน จะมีผู้สนใจจองแพ็กเกจดังกล่าวไม่น้อยกว่า 2,500 แพ็กเกจ

ขณะที่ นายธนพล ชีวรัตนพร ประธานบริษัท แตงโมทัวร์ จำกัด กล่าวว่า หากมีเสียงตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง สายการบินนกแอร์ก็มีแผนจะเพิ่มเที่ยวบินให้บริการ อีก 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันเสาร์, จันทร์ และพุธ รวมเป็น 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การเปิดให้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ-เบตง ถือเป็นการอำนวยความสะดวก และสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย จะได้รับความสะดวก สบาย และปลอดภัย ไม่ต้องนั่งรถบัสจากหาดใหญ่มายังเบตง ที่ต้องใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง (ชม.) หรือถ้านั่งจากกรุงเทพฯ ต้องใช้เวลาถึง 17 ชม.