นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาว่า ขณะนี้กำลังมีกสนทบทวนการจัดสรรโควตาสลากฯ ใหม่ทั้งระบบ โดยประเด็นสำคัญ คือการเข้าไปพิจารณาในส่วนการจัดสรรโควตาของตัวแทนจำหน่าย เช่น สมาคม มูลนิธิ องค์กรการกุศล ซึ่งมีการลงทะเบียนมาตั้งแต่ปี 58 มากกว่า 800 องค์กร ว่ามีการจัดสรรที่เหมาะสมอยู่หรือไม่
“แนวทางที่คณะอนุกรรมการจะเข้าไปดูคือ การจัดสรรมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือเปล่า โดยเฉพาะการจัดสรรให้กับองค์กร สมาคม และมูลนิธิต่างๆ ซึ่งมีประมาณ 31 ล้านใบ กับสัดส่วนรายย่อยที่มี 69 ล้านใบ ว่าเหมาะสมอยู่หรือเปล่า และดูด้วยว่าตัวแทนมูลนิธิเหล่านี้เป็นหลักลอยหรือไม่ มีการทำตามเงื่อนไขแค่ไหน เช่น ดูสถานะเป็นองค์กรที่มีตัวตน มีตัวแทนสมาชิกที่ชัดเจนถูกต้อง เพื่อให้ได้สมาคม องค์กรที่เป็นการกุศลและสาธารณประโยชน์ที่แท้จริง โดยโควตาที่มีการยึดคืนอาจนำไปเพิ่มในส่วนของผู้ค้ารายย่อยที่ซื้อ-จองล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ค้ามีอาชีพขายสลากฯ ตัวจริงได้มีโอกาสเข้าถึงสลากฯ นำไปจำหน่ายเพิ่ม”
นอกจากนี้ จะมีการจัดทำบัญชีผู้ค้าสลากฯ โดยแยกเป็นกลุ่มบัญชีคนดี กับคนไม่ดีหรือบัญชีดำ เพื่อลงโทษหรือให้รางวัลตอบแทน เช่น หากเป็นผู้ค้าที่มีประวัติดี ขายไม่เกิน 80 บาท จะพิจารณาเพิ่มโควตาสลากฯ ให้จากงวดละ 5 เล่ม เป็น 10-15 เล่ม แต่หากมีพฤติกรรมนำไปขายช่วง หรือขายเกินราคาก็จะลงโทษจนถึงการตัดโควตา ส่วนในระยะยาวจะพิจารณาแก้ไขกฎหมายให้มีสภาพบังคับที่เข้มข้นขึ้น เช่น เพิ่มโทษความผิดทั้งทางแพ่ง อาญา กฎหมายฟอกเงิน ด้วยการออกเป็นพระราชกำหนด เพื่อย่นระยะเวลาการใช้ให้เร็วกว่าเดิม
นายชาญกฤชกล่าวว่า จากการประชุมต่อเนื่องกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการได้สรุปหัวข้อการศึกษาที่ลงลึกในมิติต่างๆ ได้แก่ สาเหตุของปัญหาทั้งหมดที่ทำให้สลากฯ เกินราคา ประกอบด้วย โครงสร้างราคา ช่องทางการจัดจำหน่าย การเปลี่ยนมือของสลากฯ ความเหมาะสมของสัดส่วนการจัดสรรและการกระจายสลากฯ และปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในระดับนโยบาย
ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญต่อแนวทางที่ทำให้สลากฯถึงมือผู้ขายจริงในราคาไม่เกิน 80 บาท รวมถึง ช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ การขึ้นทะเบียนผู้ค้าเป็นครั้งแรกเพื่อให้ง่ายต่อการกำกับดูแล รวมถึงการใช้กลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อคัดกรองผู้ขายตัวจริง โดยเป็นการศึกษาเปรียบเทียบงานวิจัย รายงานการศึกษาต่างๆ และขณะเดียวกัน ต้องมีการหาแนวทางมาตรการทางกฎหมายเพิ่มโทษ ซึ่งภายใน 3-6 เดือนนี้จะได้ข้อสรุปของประเด็นทั้งหมด เพื่อเสนอให้คณะกรรมการแก้ปัญหาสลากฯเกินราคาชุดใหญ่ ที่มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเห็นชอบต่อไป