นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยผลการประชุมภายหลังการประชุมทีมเซลส์แมนอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ร่วมกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ว่าได้มีการประชุมทีมเซลส์แมนจังหวัดยะลา ที่เบตง และมีข้อสรุป 7 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นที่หนึ่ง ภาคเอกชนต้องการให้ผ่อนปรนผังเมืองยะลา ให้สามารถสร้างห้องเย็นเก็บทุเรียนหรือผลไม้ได้โดยสะดวกขึ้น ไม่ต้องฝากเช่าห้องเย็นที่จังหวัดอื่น ปริมาณผลผลิตทุเรียนของจังหวัดยะลา ปีละ 30,000 กว่าตัน มีห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดยะลารองรับผลผลิตได้ประมาณ 10,000 ตัน เมื่อประสงค์สร้างเพิ่มก็ติดเรื่องผังเมือง ซึ่งท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดรับไปประชุมหารือและจะมีคำตอบให้หอการค้าจังหวัดภายในหนึ่งเดือ
ประเด็นที่สอง ภาคเอกชนโดยประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด เสนอขอให้ภาครัฐช่วยต่ออายุโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
ที่ธนาคารออมสินปล่อยกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์ และธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการในจังหวัดชายแดนใต้ในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อปี วงเงิน 25,000 ล้านบาท จะหมดอายุในปีนี้ ขอต่อไปอีก 5 ปี คือ 66-70 ซึ่ง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้มีมติให้ต่ออายุแล้วเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 65 ต่อไปจะเป็นขั้นตอนดำเนินการต่อและวงเงินยังเหลืออีก 3,000 กว่าล้านบาท
ประเด็นที่สาม ความต้องการแรงงานต่างด้าวเมียนมา และกัมพูชา มาประกอบกิจการในจังหวัดชายแดนใต้ สำนักงานจัดหางานจังหวัดชี้แจงว่าตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 อนุญาตให้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในจังหวัดชายแดนใต้แล้วตาม MoU ที่ลงนามไว้ จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1-3 เดือนเนื่องจากเงื่อนไขที่ ศบค.กำหนดเรื่องสถานการณ์โควิด ซึ่งภาคเอกชนพอใจแล้วว่าสามารถดำเนินการได้
ประเด็นที่สี่ การจัดงานวิ่งนานาชาติเบตงในวันที่ 6-8 พ.ค. 65 คาดว่าจะมีนักวิ่งจากทั่วโลกเข้ามาประมาณ 1,000 คนและนักท่องเที่ยวเข้ามาอีกประมาณ 3,000-5,000 คน ประสงค์ให้กระทรวงพาณิชย์จัดกิจกรรมช่วยเสริมให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น กระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาร่วมจัดมหกรรมการค้าชายแดนและการจับคู่ธุรกิจ เพื่อซื้อขายระหว่างผู้ผลิตสินค้าที่มีศักยภาพ 60 รายการของจังหวัดชายแดนใต้กับผู้ซื้อในประเทศและต่างประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ (OBM) ต่อไป
ประเด็นที่ห้า โครงการบำบัดน้ำเสียของเทศบาลเบตง ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี ได้มาช่วยดำเนินการเบื้องต้นแล้ว ขณะนี้มีการลงนาม MoU ระหว่างองค์การจัดการน้ำเสียกับเทศบาลเมืองเบตง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และกำลังเริ่มดำเนินการสำรวจออกแบบจัดทำงบประมาณต่อไป
ประเด็นที่หก การแก้ปัญหาน้ำท่วมเบตงซึ่งได้เตรียมการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำชลประทานเพื่อแก้ปัญหา ท่านรมช.นิพนธ์ รับไปประสานงานกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และกรมชลประธาน เพื่อให้บรรจุโครงการนี้เข้าแผนของกระทรวงฯต่อไป
ประเด็นที่เจ็ด เรื่องอาคารด่านศุลกากรกับด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง ที่ด่านเบตงชำรุด ท่านรมช.นิพนธ์ ช่วยประสานงานและด่านตรวจคนเข้าเมืองได้งบแล้ว 5.2 ล้านบาท จะเร่งซ่อมแซมตั้งแต่เดือน พ.ค. 65 เป็นต้นไปให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ส่วนอาคารศุลกากรนั้นได้ประสานงานอธิบดีกรมศุลกากรลงมาดูแล้ว จะได้มีการเข้ามาช่วยจัดการให้ต่อไปเพื่อเตรียมรองรับสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาในเมืองไทยได้ในอนาคต