เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวถึงข้อกังวลของหลายฝ่ายต่อภาพการเข้าแถวของประชาชนอย่างแออัดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ว่า จำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา มีเพิ่มขึ้น 90,934 โด๊ส ทำให้ยอดรวมของประเทศอยู่ที่ 15,960,778 โด๊ส ถ้านับเฉพาะผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-25 ก.ค.2564 มีจำนวน 4,330,140 ราย คิดเป็น 56.24 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไป 751,946 ราย คิดเป็น 54 เปอร์เซ็นต์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว 465,027 ราย คิดเป็น 70.52 เปอร์เซ็นต์
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้รับรายงานว่ามีประชาชนในกรุงเทพฯ และจากต่างจังหวัดไปรอรับการฉีดวัคซีนที่ศูนย์วัคซีนสถานีกลางบางซื่อ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วงว่าขณะนี้เรายังอยู่ในมาตรการห้ามการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม แต่การฉีดวัคซีนก็เป็นนโยบายที่ต้องเร่งดำเนินการ ที่ประชุมจึงฝากให้ศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อทบทวนการจัดระเบียบที่เหมาะสมหรืออาจต้องชะลอการฉีดวัคซีนช่วงนี้ เพื่อลดความแออัดหนาแน่น ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขได้เน้นย้ำว่าในทุกจังหวัดทั่วประเทศต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ซึ่งปัจจุบันตัวเลขดังกล่าวยังเดินช้าพอสมควร ด้านกรมควบคุมโรครายงานว่าในจังหวัดอื่นๆ ตอนนี้มีการจัดส่งวัคซีนไปแล้ว และรอค้างอยู่ประมาณ 2 ล้านโด๊ส จึงขอให้จังหวัดที่ได้รับวัคซีนแล้ว เร่งระดมฉีดให้ประชาชนด้วย และจะต้องมีการจัดการนัดหมายที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการแออัดจนกลายเป็นจุดแพร่เชื้อได้