เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 เม.ย.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 8 พร้อมคณะนำขบวนรถยนต์ไฟฟ้า EV หาเสียง พื้นที่เขตดอนเมือง-บางเขน-สายไหม ย้ำแนวคิด “หาเสียงแบบรักเมือง” โดยมีนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา เพื่อเด็กและสตรี ร่วมขบวนรถ EV ด้วย โดยเส้นทางการหาเสียงของนายชัชชาติเริ่มตั้งแต่หน้าวัดดอนเมือง ถนนสรงประภา เคลื่อนไปหมู่บ้านปิ่นเจริญ 1-2 (ถนนสรณคมน์) วัดเวฬุวนาราม (วัดไผ่เขียว) หมู่บ้านโกสุมสามัคคี (ถนนโกสุมรวมใจ) พบปะพี่น้องชาวดอนเมืองที่ชุมชนปู่เจ้าสมิงพรายสะพานปูน และชุมชนร่มไทรงามพัฒนา วัดพระศรีฯ เขตบางเขน ไปตามถนนพหลโยธิน เข้าซอยพหลโยธิน 52 เขตสายไหม เลี้ยวขวาซอยพหลโยธิน 52 แยก 48 ไปยังถนนเทพรักษ์ และชุมชนหมู่บ้านสินทรัพย์นคร (ซอยเทพรักษ์ 20)

นายชัชชาติ กล่าวว่า เขตดอนเมืองเป็นเขตใหญ่เขตหนึ่ง มีประชากรประมาณ 1.9 แสนคน การคมนาคมโดยระบบขนส่งขนาดใหญ่มาถึงแล้ว เช่น รถไฟฟ้าสายสีแดง แต่ประชาชนยังเดินทางลำบาก รวมถึงมีปัญหาที่ประชาชนรุกล้ำคลองเปรมประชากรอยู่ประมาณ 14 ชุมชน ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการจัดหาที่อยู่อาศัยให้ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช.ร่วมกับ กทม.ในการดำเนินการ

ขณะเดียวกัน วันนี้ค่าฝุ่น pm2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เราใช้แคมเปญรถไฟฟ้า EV ในการหาเสียง เพื่อลดการปล่อย pm2.5 และก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตามเรื่องฝุ่น pm2.5 เป็นเรื่องใหญ่ของผู้ว่าฯ กทม. ที่ต้องมาดูแล กทม. ต้องจริงจังในการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของการเกิดฝุ่น pm2.5 อาทิ จัดการรถควันดำ ควบคุมไซต์งานก่อสร้าง แพล้นปูนสนับสนุนรถ EV โดยจัดจุดชาร์จให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ มากที่สุด สนับสนุนการเปลี่ยนรถเก่าให้เป็นรถ EV ซึ่งอาจใช้โรงเรียนฝึกอาชีพของ กทม. ในการฝึกงาน เพื่อให้คนที่มีรายได้น้อย ไม่สามารถซื้อรถ EV ใหม่ได้ แต่มีรถเก่าอยู่มาเปลี่ยนเป็นรถ EV คู่ขนานกับการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน และจะพยายามให้เป็นรถเมล์ไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อลดมลพิษในกรุงเทพฯ

เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายการจัดโซนนิ่งชุมนุม นายชัชชาติ กล่าวว่า เรามีความเห็นที่แตกต่างกันได้ ซึ่งมีส่วนหนึ่งที่เหมือนกันคือเราเคารพสิทธิของประชาชน ที่ต้องมีสิทธิในการแสดงออกในความเห็นที่ต่างกัน เคารพความเห็นที่แตกต่าง ส่วนรายละเอียดเราต้องฟังจากหลายๆ ฝ่ายก่อนแล้วค่อยคิดเป็นนโยบาย ยังมีเวลามาประมวลความคิดอีกครั้งหนึ่ง.