บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 8 เม.ย.65 เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบ โดยนักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นหลังจากที่ขายออกไปในวันก่อนหน้า อาทิ กลุ่มค้าปลีก โรงพยาบาล และอสังหาริมทรัพย์ และบางส่วนเริ่มระมัดระวังการลงทุนในช่วงใกล้วันหยุดคาบเกี่ยววันสงกรานต์ ซึ่งเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่เริ่มเบาบางลง ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,686 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด หรือ 0.21% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 70,884.83 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 657.42 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุดหรือ 0.07% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12,043.98 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปกติเดือน เม.ย. ตลาดปรับตัวขึ้น จากสถิติย้อนหลังในอดีต 10 ปี ดัชนีจะบวก ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกก่อนสงกรานต์ ดัชนีจะปรับขึ้นเฉลี่ย 0.3% อาจซึมๆ นักลงทุนจะขายก่อนหยุดยาว และหลังสงกรานต์ ดัชนีจะปรับขึ้น 2.25% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยในอดีต แต่ปีนี้มองว่าตลาดไม่ได้ขึ้นกับค่าเฉลี่ยในอดีต เพราะมีปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยที่ต้องติดตามคือ ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน เพราะอาจจะมีคว่ำบาตรเพิ่ม ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด เป็นต้น
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1.อีเอ ปิดที่ 87.50 บาท ลดลง -0.75 บาท
2.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง -1.00 บาท
3.โอสถสภา ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง -2.00 บาท
4.เจดีเอฟ ปิดที่ 5.05 บาท ลดลง -0.45 บาท
5.ปตท. ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง -0.50 บาท