เมื่อวันที่ 8 เม.ย. นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และนายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent-LOI) ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท การบินไทยฯ และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ในการวางแผน กระตุ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดีย โดยมี นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ และนายวิเศรษฐ์ สนธิชัย รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ร่วมลงนาม ณ การบินไทย สำนักงานใหญ่
นายสุวรรธนะ กล่าวว่า ตลาดอินเดีย เป็นตลาดที่สำคัญ ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Joint Promotion) และสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยว ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวร่วมกัน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้นต่อไป อย่างไรก็ตามจำนวนผู้โดยสารตลาดอินเดียปี 62 (ก่อนเกิดโควิด-19) อยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านคน สร้างรายได้ให้บริษัทฯ กว่า 8,500 ล้านบาท ความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของไทย หลังจากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ให้ฟื้นตัวและขยายตัวอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันการบินไทย และสายการบินไทยสมายล์ ทำการบินเส้นทางระหว่างอินเดียมายังประเทศไทย ดังนี้ 1.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-นิวเดลี ทำการบินสัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน 2.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-มุมไบ ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน 3.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เจนไน ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน 4.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เบงกาลูรู ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน 5.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-กัลกัตตา ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ทำการบินโดยสายการบินไทยสมายล์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.65) และ 6.เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-มุมไบ ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ทำการบินโดยสายการบินไทยสมายล์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.65)
นายสุวรรธนะ กล่าวต่อว่า นอกจากความร่วมมือในเส้นทางตลาดอินเดียแล้ว การบินไทยยังได้เปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศ ในตารางบินฤดูร้อน ปี 65 เพิ่มมากขึ้นกว่า 34 เส้นทางบิน ครอบคลุมทั้งเอเชีย ยุโรป และออสเตรเลีย ผู้โดยสารสามารถเดินทางเชื่อมต่อเส้นทางบินสู่เมืองต่างๆ อย่างสะดวกสบายด้วยสายการบินไทยสมายล์ และสายการบินพันธมิตร รวมทั้งจะมีการพิจารณาเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อไปในอนาคตตามนโยบายของภาครัฐต่อไป
ด้านนายนภินทร กล่าวว่า ตลาดอินเดียเป็นตลาดศักยภาพขนาดใหญ่ของภูมิภาคเอเชียใต้ ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวไทย จากสถิติปี 62 นักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางเข้าไทย 1,995,516 คน ขยายตัว 24.85% สร้างรายได้กว่า 86,372.01 ล้านบาท ขยายตัว 27.45% ทั้งนี้หากประเมินจากอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (load factor) ของการบินไทยและไทยสมายล์ ตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้ เป็นต้นไป คาดว่าประเทศไทยจะสามารถนำชาวอินเดียเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 13,000 คนต่อเดือน ยังไม่นับรวมผู้เดินทางจากสายการบินอื่น และคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 80,000 คนต่อเดือน เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ
ขณะที่นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ททท. จะมุ่งเน้นส่งเสริมตลาดอินเดีย โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มความสนใจพิเศษที่มีการใช้จ่ายสูง ผ่านการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ททท. กรุงนิวเดลี และเมืองมุมไบอย่างต่อเนื่อง อาทิ การทำการตลาดผ่าน Celebrity/Influencer, ทำกิจกรรม Joint Promotion โดยเฉพาะสำหรับตลาดกลุ่มระดับบน (luxury), ส่งเสริมกลุ่มแต่งงานอินเดียในประเทศไทย ด้วยการจัด Amazing Thailand Wedding EXPO 2022 ในเดือน เม.ย.65 เพื่อให้คู่รักได้วางแผนการจัดงานแต่งงานในประเทศไทย เป็นต้น.