เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 ได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงานเสวนาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. กับการบริหารจัดการขยะ น้ำ อากาศ และเมืองยั่งยืน หัวข้อ “การจัดการน้ำเสีย และขยะในกรุงเทพมหานคร” จัดโดยเครือข่าย คณาจารย์นิสิตนักศึกษาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมประเทศไทย และภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

นายสุชัชวีร์ กล่าวช่วงหนึ่งสาเหตุหลักของน้ำเน่า ไม่ใช่เกิดจากขยะเป็นหลักแต่เกิดจากการจัดการน้ำเสียส่วนหนึ่ง และการไหลเวียนของน้ำอีกส่วนหนึ่งทั้งนี้ จากการลงพื้นที่มาครบทั้ง 50 เขต พบว่าหลายคลองในกรุงเทพฯ ปล่อยให้น้ำนิ่ง เมื่อน้ำนิ่งไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ประกอบกับมีการปล่อยน้ำเสียที่มีคราบน้ำมันเคลือบผิวน้ำ ทำให้น้ำไม่สามารถผันออกซิเจนได้ ทำให้น้ำเน่าและยิ่งปล่อยให้เน่าเสียเป็นเวลานาน ก็จะเกิดแก๊สและสารพิษ เป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้อยู่อาศัยรอบๆ คลอง ตนจึงได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ต้องแก้ให้น้ำมีการเคลื่อนไหว โดยคำนวณจากระดับน้ำขึ้น-น้ำลง และต้องมีระบบเปิด-ปิดประตูระบายน้ำอัตโนมัติ เพื่อผันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ลำคลอง และเมื่อน้ำลงก็ส่งน้ำจากคลองลงสู่ทะเล

ส่วนระยะยาวต้องจัดการระบบการบำบัดน้ำเสีย เพราะปัญหาขณะนี้คือ หลายแห่งมีระบบบำบัดน้ำเสีย แต่ท่อส่งน้ำเสียจากครัวเรือนกลับส่งไปไม่ถึงและในหลายพื้นที่ หลายชุมชนมีการปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองโดยตรง จึงต้องจัดการให้น้ำเสียเหล่านี้ถูกส่งไปให้ถึงระบบบำบัด พร้อมกับจัดให้มีการบำบัดน้ำเสียในชุมชนด้วย

“สิ่งสำคัญที่สุดคือ ขณะนี้ไม่มีการสำรวจข้อมูลที่เป็นปัจจุบันของแม่น้ำลำคลอง ผมพบว่ามีคลองบางแห่งสูญหายไปแล้วจากการลักลอบถมที่ และคลองบางแห่งไม่มีชื่อ หรือแม้กระทั่งปริมาตรความจุของคลอง ทั้งลักษณะความกว้าง ความยาว ความลึก เมื่อเราไม่รู้สิ่งเหล่านี้ การจัดการน้ำในอนาคตจะทำได้ยาก ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยหลักวิศวกรรม จำเป็นต้องมีข้อมูล ไม่ใช่คิดเอาเองว่าควรจะเป็นอย่างไร มิฉะนั้นจะทำให้แก้ปัญหาไม่ได้” นายสุชัชวีร์ กล่าว.