บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 7 เม.ย.65 เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน จากแรงกดดันในสหรัฐที่ตลาดตราสารหนี้เริ่มมีความเสี่ยง ทำให้นักลงทุนกังวลว่า เงินลงทุนต่างชาติอาจไหลย้อนกลับเข้าไปในสหรัฐ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวลดลง และการเข้าใกล้วันหยุดยาว ทำให้ปริมาณการซื้อขายน้อยลง ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,682.41 จุด ลดลง18.77 จุด หรือ 1.10% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 97,091.59 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 656.93 จุด ลดลง 2.88 จุดหรือ 0.44% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6,084.04 ล้านบาท

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิจัย บล. ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ และเฟดอาจส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าคาด ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะได้รับผลกระทบจำกัดจากความขัดแย้งในปัจจุบัน และคาดว่า ธปท.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 0.25% ในครึ่งปีหลังนี้ โดยประเมินโอกาสการลงทุน หลังจากส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ กลุ่มที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสูง การอุปโภคบริโภคภายในประเทศ เป็นต้น

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.อีเอ ปิดที่ 88.25 บาท ลดลง -6.00 บาท

2.เจบีเอฟ ปิดที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.90 บาท

3.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 159.50 บาท ลดลง -2.00 บาท

4.ปตท. ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง -0.25 บาท

5.แอดวานซ์ ปิดที่ 227.00 บาท ลดลง -7.00 บาท