เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ดร.เกรียงพล พัฒนรัฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าว สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้มีการแจ้งคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้ามายังบริษัทฯ ปรากฏตามสื่อมวลชนนั้น ขอเรียนว่าบริษัทฯ ได้รับอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า กำลังการผลิต 4.2 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงกำจัดมูลฝอยเพื่อผลิตพลังงานด้วยวิธีเชิงกลชีวภาพ แบบหมักไร้อากาศ ขนาด 800 ตันต่อวัน ด้วยเทคโนโลยี MBT (Mechanical Biological Treatment) นำน้ำหมักขยะมาหมักแบบไร้อากาศในระบบปิดและได้ผลพลอยได้เป็นเชื้อเพลิง RDF และกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ เพื่อลดปัญหาการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของกทม.ด้วยระบบเก่าโดยการ ฝังกลบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ในกระบวนการกำจัดขยะของบริษัทเป็นระบบไบโอแก๊ส ซึ่งใช้เครื่อง Generator ผลิตไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้ จึงไม่เกิดความร้อนสูงและฝุ่น สำหรับปัญหาร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบเรื่องกลิ่น บริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามลำดับ มีการเชิญตัวแทนชุมชนเข้ามาเป็นคณะกรรมการร่วมตรวจติดตามมาตรการการแก้ไขกับทางบริษัท ตามที่ได้มีการประชุมไป เมื่อวันที่ 17 ก.พ.65 และ 25 มี.ค.65 ซึ่งแก้ปัญหาไปแล้วหลายส่วนทั้งมาตรการระยะสั้นและมาตรการระยะยาว

อย่างไรก็ตาม คงเหลือเพียงการปรับเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องบำบัดอากาศในอาคารให้สามารถบำบัดได้มากขึ้นเป็น 100,000 ลบ.ม.ต่อวัน คาดว่าจะพร้อมใช้งานภายในปลายเดือน เม.ย. ไม่เกินต้นเดือน พ.ค.นี้

ดร.เกรียงพล กล่าวต่อว่า สำหรับคำสั่งที่สำนักงานคณะกรรมการ กกพ.ได้แจ้งตามที่ปรากฏเป็นข่าว ระบุให้บริษัทดำเนินการปรับปรุงระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศจากปล่องและการเตือนค่าความเข้มข้นมลพิษทางอากาศ รวมทั้งการปรับปรุงระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพ บริษัทได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่าคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนในเรื่องการตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนประชาชน 9 คน ตัวแทนหน่วยงานราชการ 5 คน และบริษัท 2 คน ในส่วนของตัวแทนประชาชน บริษัทฯได้มีหนังสือถึงสำนักงานเขตประเวศตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อขอให้เขตส่งรายชื่อประชาชนตามขั้นตอน

สำหรับส่วนตัวแทนหน่วยงานประสานเข้าร่วมแล้ว ระหว่างนี้ได้เชิญชุมชนโดยรอบเข้ามาตรวจติดตามการแก้ไขเป็นระยะ เพื่อให้เห็นถึงความตั้งใจที่เร่งรัดแก้ไข โดยไม่ต้องรอการสั่งการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ พร้อมแสดงเอกสารหลักฐานการดำเนินการตามข้อเสนอของกรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรมและสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. โดยจะแจ้งความคืบหน้าต่อสำนักงาน กกพ.เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการหยุดผลิตกระแสไฟฟ้าจะไม่กระทบต่อการดำเนินการจัดเก็บและกำจัดขยะมูลฝอยของ กทม.ที่มีขยะในแต่ละวันรวมกว่า 10,000 ตัน ซึ่งเป็นส่วนที่บริษัทฯ รับผิดชอบดำเนินการกำจัดวันละ 800-1,000 ตัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบขยะตกค้าง โดยเฉพาะในภาวะที่ขยะทั่วไปมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรค ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขอนามัยของประชาชน.