สำนักงานรอยเตอร์ส รายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง ได้จับกุมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 6 คน เนื่องจากต้องสงสัยในการยุยงปลุกปั่น และทำการละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตำรวจบอกว่า “สร้างความเดือดร้อนรำคาญ” ที่การพิจารณาคดีของศาลในเดือน ธ.ค. และ ม.ค.ที่ผ่านมา

ทางตำรวจ ที่จะไม่เปิดเผยตัวตนของผู้ที่ถูกจับกุม กล่าวว่า ทั้ง 6 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 32 ปี ถึง 67 ปี ได้ถูกจับกุมในข้อหา “สร้างความเดือนร้อนรำคาญโดยเจตนา” ระหว่างการพิจารณาคดีที่พวกเขาเข้าร่วมหลายครั้งด้วยกัน

ตำรวจกล่าวเพิ่มเติมว่า พวกเขาทุกคนถูกคุมตัวและรอการสอบสวนต่อไป

สื่อมวลชนรายงานว่า ในกลุ่มผู้ที่ถูกจับมี นายลีโอ ทั่ง อดีตรองประธานสมาพันธ์สหภาพแรงงานฮ่องกง (เอชเคซีทียู) ที่ปัจจุบันถูกยุบไปแล้ว และยังเป็นนักข่าวพลเมืองของ เสี่ยว หยุนหลง อีกด้วย

ทั้ง 6 คน ถูกกล่าวหาว่า “สร้างผลกระทบต่อเกียรติยศและการปฏิบัติหน้าที่ของศาล” ที่ศาลสูง, ศาลฎีกาเกาลูนตะวันตก และศาลฎีกาตะวันออก ระหว่างเดือน ธ.ค. 2564 และ ม.ค. 2565

ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของพวกเขา และยึด “บันทึกการสมรู้ร่วมคิดเพื่อสร้างความเดือดร้อนในศาล” ไว้เป็นหลักฐาน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางรัฐบาลฮ่องกงยังไม่มีการแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด

ทางรอยเตอร์สเองก็ไม่สามารถติดต่อขอความเห็นจาก ทั่ง และ เสี่ยว ได้

เอชเคซีทียู เคยเป็นถึงสหภาพแรงงานเสรีที่ใหญ่ที่สุดในสมัยอาณานิคมอังกฤษ แต่ก็เป็นหนึ่งในองค์การหลายสิบกลุ่มที่ถูกบังคับให้ยุบ หลังจากรัฐบาลปักกิ่งกำหนดโทษตามกฎหมายความมั่งคงแห่งชาติ เมื่อปี 2563

กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ระบุว่า การแบ่งแยกดินแดน การล้มล้างอำนาจ การก่อการร้าย และการสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ ถือเป็นอาชญากรรม และมีบทลงโทษสูงสุดคือ การจำคุกตลอดชีวิต และถูกวิพากษ์วิจารณ์จากรัฐบาลชาติตะวันตก ว่าเป็นเครื่องมือเพื่อกีดกันความเห็นต่าง และเป็นการปิดกั้นอิสรภาพ

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของจีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น และกล่าวว่า กฎหมายได้นำมาซึ่งเสถียรภาพต่อศูนย์กลางทางการเงิน หลังจากการประท้วงส่งเสริมประชาธิปไตยครั้งใหญ่ที่เกิดความรุนแรงบางครั้ง ในปี 2562

สหราชอาณาจักรส่งมอบฮ่องกงกลับคืนสู่จีน ในปี 2540 ภายใต้หลักการปกครอง “หนึ่งประเทศ สองระบบ” เพื่อรับประกันอิสรภาพ และสิทธิในการประท้วงและความเสรีของกลไกตุลาการ

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES