จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แอสตราเซเนกาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเป็นจำนวนมากนั้น
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. โดยล่าสุดนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงนามคำสั่งจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 5417/2564 ลงวันที่ 25 ก.ค. 2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ลงนามในบันทึกข้อความ ด่วนที่สุด เรื่อง รายงานขอเท็จจริง ถึง ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ความว่า 1.ตามที่ปรากฏข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ กรณีข้าราชการตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มที่ 3 ยี่ห้อแอสตราเซเนกา กับสาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จำนวน 11 นาย นั้น
2.กรณีดังกล่าว มีกระแสสื่อออนไลน์สอบถามและกล่าวถึงความจำเป็นเร่งด่วนหรือความเสี่ยง ในการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ในลักษณะไม่เป็นไปตามนโยบายภาครัฐ
3.จึงให้ท่านรายงานชี้แจง กรณีดังกล่าวมีข้อเท็จจริงหรือเหตุผลความจำเป็น แล้วรายงานให้ ภ.จว.บุรีรัมย์ ทราบภายในวันนี้ (25 ก.ค. 64) ก่อนเวลา 16.00 น. เพื่อทราบและถือปฏิบัติ
ด้าน ทางด้าน พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และ โฆษกตำรวจภูธรภาค 3 ได้เปิดเผยทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ขอชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 64 เพจเฟซบุ๊กของ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ได้โพสต์ข้อความว่า “พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้ประสานการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มที่ 3 ยี่ห้อ Astra Zeneca กับทางสาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับข้าราชการตำรวจแล้ว จำนวน 11 นาย อาการผลข้างเคียงไม่มี” ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย นั้น
ตำรวจภูธรภาค 3 ขอชี้แจงว่า ด้วยสถานการณ์การติดเชื้อและแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นและประชาชนผู้ติดเชื้อในบางพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในภาวะวิกฤติโดยไม่มียานพาหนะรับและส่งตัวเพื่อได้รับการรักษายังสถานพยาบาล และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเป็นการเร่งด่วน จึงให้แต่ละสถานีตำรวจสำรวจสถานภาพยานพาหนะประจำหน่วยและตำรวจที่ต้องทำหน้าที่พลขับยานพาหนะที่มีจิตอาสาเพื่อสนับสนุนภารกิจร่วมกับกรมการแพทย์ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หน่วยแพทย์ฉุกเฉินหรือสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เมื่อหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่มีความต้องการขอรับการสนับสนุน
ซึ่ง พ.ต.อ.สุเอก ได้ชี้แจงสถานการณ์และเหตุผลความจำเป็นที่เข้าร่วมเป็นจิตอาสาในภารกิจนี้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว ปรากฏว่า มีตำรวจที่อาสาปฏิบัติภารกิจนี้ จำนวน 11 นาย จึงได้แจ้งให้สาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ทราบ ทางสาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมวัคซีนมาฉีดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 11 คน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำหน้าที่เป็นพลขับยานพาหนะรับและส่งตัวผู้ติดเชื้อเพื่อไปส่งสถานพยาบาลต่างๆ และหากต้องไปรับผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกลับมาส่งที่บ้านในจังหวัดบุรีรัมย์ ก็พร้อมปฏิบัติในทันทีเมื่อได้รับการประสานแจ้งที่สถานีตำรวจ “จึงขอเพียงความเห็นใจและเห็นใจผู้อาสาปฏิบัติด้วยครับ” พล.ต.ต.ไพศาล กล่าว