บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 5 เม.ย.65 เคลื่อนไหวในแดนลบ โดยการซื้อขายยังเบาบางหลังตลาดหุ้นหลักในภูมิภาคอย่างจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ปิดทำการ ทำให้มูลค่าซื้อขายดูเงียบเหงา และนักลงทุนบางส่วนรอติดตามมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียระลอกใหม่ที่สหรัฐและยุโรปเตรียมออกเพิ่มเติม ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,701.18 จุด ลดลง 1.75 จุด หรือ 0.10% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 68,481.05 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 659.81 จุด ลดลง 9.52 จุดหรือ 1.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11,616.85 ล้านบาท

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นว่ายังแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ โดยขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่เงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงเป็นผลดีต่อต้นทุนของบริษัทจดทะเบียน ทำให้คาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ในกรอบ 1,680-1,720 จุด โดยปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก, การประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) เป็นต้น

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.อีเอ ปิดที่ 94.25 บาท ลดลง -5.75 บาท

2.เอโอที ปิดที่ 67.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

3.ปตท.สผ. ปิดที่ 146.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

4.เน็กซ์ ปิดที่ 19.10 บาท ลดลง -0.90 บาท

5.ปตท. ปิดที่ 38.50 บาท เพิ่มขึ้น -0.25 บาท