หลังจากเพิ่งแสดงความสนใจธุรกิจวงการโซเชียลมีเดีย ‘อีลอน มัสก์’ มหาเศรษฐีอัจฉริยะผู้เป็นเจ้าของบริษัทเทสลาและสเปซเอ็กซ์ ก็ตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัททวิตเตอร์จำนวน 9.2% คิดเป็นมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 100,620 ล้านบาท ทำให้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทและยังมีส่วนทำให้มูลค่าหุ้นของทวิตเตอร์เพิ่มขึ้นถึง 20%

การตัดสินใจของมัสก์เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเปรยบนทวิตเตอร์ของเขาว่า กำลัง ‘คิดหนัก’ เกี่ยวกับการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแห่งใหม่ ในขณะที่ตั้งข้อสงสัยว่าทวิตเตอร์ยังคงยึดมั่นต่อนโยบายด้านเสรีภาพทางคำพูดและการแสดงออกหรือไม่

เป็นที่รู้กันดีว่า มัสก์นิยมใช้ทวิตเตอร์แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องต่าง ๆ บัญชีของเขามีผู้ติดตามมากกว่า 80 ล้านราย นับตั้งแต่เขาเปิดใช้งานบัญชีบนทวิตเตอร์เมื่อปี 2552 และได้ใช้แพลตฟอร์มนี้โพสต์ข้อความและประกาศต่าง ๆ และมีหลายครั้งที่สร้างปัญหาให้เขา

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ มัสก์เริ่มวิพากษ์วิจารณ์แพลตฟอร์มทวิตเตอร์และการบังคับใช้นโยบายต่าง ๆ โดยกล่าวอ้างว่าบริษัทกำลังบ่อนทำลายความเป็นประชาธิปไตยโดยไม่สนใจที่จะยึดถือแนวทางการให้เสรีภาพทางคำพูดและการแสดงออกอย่างแท้จริง

ตามข้อมูลในรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มัสก์เป็นเจ้าของหุ้นของทวิตเตอร์จำนวน 73.5 ล้านหุ้นโดยถือครองในนามของกองทุน Elon Musk Revocable Trust ซึ่งมีเขาเป็นผู้ดูแลแต่เพียงผู้เดียว ส่วนบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนแวนการ์ด กรุ๊ป คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นอันดับสองของทวิตเตอร์ รองลงมาจากมัสก์

มูลค่าหุ้นของทวิตเตอร์ในปัจจุบันในตลาดซื้อขายอยู่ที่ 47.19 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น (ราว 1,581 บาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 20% โดยก่อนหน้านี้มูลค่าหุ้นของบริษัทได้ตกลงถึง 38% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา 

เครดิตภาพ : Reuters