สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ว่าผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งผู้นำเซอร์เบีย ซึ่งมีการลงคะแนน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูชิช ตัวแทนจากพรรคพันธมิตรประชานิยม ซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนประมาณ 59.8% ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญ คือนายซีดราฟโก โปนอส ตัวแทนจากพรรคสายกลางซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนยุโรป ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนประมาณ 17.1%

FRANCE 24 English

ทั้งนี้ วูชิช วัย 52 ปี ต้องการรักษาตำแหน่งผู้นำเซอร์เบียให้ได้สองสมัยติดต่อกัน หรืออีก 5 ปี โดยหาเสียงชูจุดยืนการสร้างเสถียรภาพด้านความมั่นคงที่ยั่งยืนในประเทศ ท่ามกลางแรงกดดันอย่างหนักจากตะวันตก ซึ่งต้องการให้เซอร์เบีย “มีความชัดเจน” ว่า “จะสนับสนุนฝ่ายใด” และ “มีท่าทีแบบใด” ในสงครามยูเครน


อย่างไรก็ตาม ผู้นำเซอร์เบียยืนยันการเป็นประเทศที่ “รักษาสมดุล” กับสหรัฐ รัสเซีย จีน และสหภาพยุโรป (อียู) ตลอดจน “การเป็นกลางทางทหาร” นั่นคือ การที่เซอร์เบียจะไม่เข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่รัฐบาลเซอร์เบียกล่าวว่า “ไม่เคยลืม” การที่นาโตทิ้งระเบิดถล่มกรุงเบลเกรด ในสงครามยูโกสลาเวีย เมื่อปี 2542

นายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน โบกมือทักทายกลุ่มผู้สนับสนุน ระหว่างการประกาศชัยชนะ ในกรุงบูดาเปสต์


ในวันเดียวกัน ฮังการีจัดการเลือกตั้งทั่วไป ที่เป็นการเลือกตั้งสมาชิกชุดใหม่ทั้ง 199 ที่นั่ง ในสภาแห่งชาติ ซึ่งผลปรากฏว่า พรรคฟิเดสซ์ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลอุดมการณ์ฝ่ายขวา ของนายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน โดยผลอย่างไม่เป็นทางการปรากฏว่า พรรคฟิเดสซ์กวาดที่นั่งไปพรรคเดียวมากถึง 135 ที่นั่ง

Reuters


นับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ออร์บานยืนยันว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการทางทหาร แต่คัดค้านการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย และไม่อนุญาตให้สมาชิกนาโตลำเลียงอาวุธผ่านฮังการี เพื่อนำไปช่วยเหลือยูเครน.

เครดิตภาพ : REUTERS