สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่า กระทรวงข่าวสารของศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ระหว่างเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ที่ผ่านมา (19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย) จนถึงเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ที่ 4 เม.ย. (07.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย) รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 36 ชั่วโมง เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่สงบภายในประเทศ


ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมทั้งศรีลังกา ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หลังเกิดการประท้วง และการจลาจลครั้งใหญ่ ในกรุงโคลัมโบ เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อต่อต้านมาตรการจัดการนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่มวลชนซึ่งเข้าร่วมมองว่า ไม่มีประสิทธิภาพ และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนอย่างหนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อความไม่สงบได้มากกว่า 50 คน แต่มีเจ้าหน้าที่มากกว่า 20 นาย ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ


ด้านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงโคลัมโบออกแถลงการณ์แสดงความวิตกกังวล ต่อการที่ตำรวจและทหารใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เพื่อปราบปรามผู้ชุมนุม ขณะที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องรัฐาลยุติการใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน

ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในกรุงโคลัมโบ ให้บริการท่ามกลางความมืดมิด โดยต้องจุดเทียนไขแทน เพราะอยู่ในช่วงเวลาของการดับไฟประจำวัน


ปัจจุบัน ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ จนต้องมีการประกาศตัดไฟนานถึง 13 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากนี้ มูลค่าทุนสำรองระหว่างประเทศของศรีลังกาลดลง 70% ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ทั่วโลกประสบกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สัญญาณล่าสุดของการขาดแคลนทุนสำรอง นั่นคือ เรือบรรทุกก๊าซหุงต้ม 5,500 เมตริกตัน ไม่สามารถเทียบท่าของศรีลังกาได้ เนื่องจากบริษัทที่ส่งก๊าซ ไม่สามารถจ่ายเงิน 4.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 164.21 ล้านบาท)


ในอีกด้านหนึ่ง อินเดียส่งเชื้อเพลิง 40,000 ตัน พร้อมข้าวสารอีกจำนวนหนึ่งไปยังศรีลังกา ตามวงเงินสินเชื่อ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,756.50 ล้านบาท) ที่อินเดียอนุมัติเป็นการเร่งด่วนให้แก่ศรีลังกา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES