เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 เม.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 11 พร้อมด้วยนายวิศาล กองเงิน ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 6 เขตจตุจักร พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่เดินตลาด อ.ต.ก. พบปะผู้ค้า สอบถามปัญหาการค้าขาย โดยเฉพาะหลังการระบาดของโควิด-19 พบว่าสภาพการค้ายังคงซบเซาต่อเนื่อง ยอดขายตกลง ประกอบกับต้นทุนสินค้าหลายประเภทปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หมู ไก่ ก๊าซหุงต้ม หรือกระทั่งกาแฟ และ 18 กลุ่มสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคอื่นๆ เตรียมปรับราคาขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าเดินจับจ่ายน้อยลง ซึ่งผู้ค้าประเมินว่าอาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ สภาพการค้าจึงจะฟื้นกลับมา โดยเฉพาะผู้ค้ารายเล็ก ที่หวังว่าจะได้รับการดูแลจากภาครัฐ เนื่องจากไม่มีทุนสำรองมากพอที่จะเสริมสภาพคล่อง

น.ต.ศิธา กล่าวว่าพรรคไทยสร้างไทย และทีมนโยบาย กทม.ของพรรคได้เตรียม กองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก หรือ “กองทุนตนตัวเล็ก” ซึ่งตั้งใจ สร้างขึ้นมาเพื่อมอบ “เครดิตแก่ประชาชน” ที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุน ในการทำมาหากิน จนต้องไปพึ่งพิงหนี้นอกระบบ และกองทุนนี้ จะเป็น “เครดิต” ที่มอบให้ติดตัว สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน กู้ได้ตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ด้วยกระบวนการสินเชื่อที่แตกต่างจากสถาบันการเงินทั่วไป จะช่วยสร้างพลังและปลดปล่อยคนไทย หลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงิน ทำให้คนตัวเล็กตั้งตัวได้ ยิ่งไปกว่านั้น เงินส่วนนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สูญเปล่าเหมือนการแจกเงินในปัจจุบัน จะทำให้คนกรุงเทพฯ สามารถลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด แข็งแรงที่สุดอีกครั้ง ตนพร้อมจะอำนวยความสะดวกในการทำมาหากิน ให้กับคนกรุงเทพฯ ทุกอย่าง โดยเริ่มต้นจากคนตัวเล็ก และพร้อมจะทำให้ เศรษฐกิจกรุงเทพฯ ดีขึ้นในทุกมิติ รวมถึงการจัดที่ทางสำหรับการค้าขายอย่างเป็นระบบ ทั้งในส่วนของแผงลอยไปจนถึง ผู้ประกอบการขนาดกลาง

ขณะที่ นายเกตินิคม กฤษณะเศรณี ผู้สมัคร ส.ก.เขตบึงกุ่ม พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า มีความมั่นใจหลังสมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ได้หมายเลข 6 ซึ่งจากการลงพื้นพบปะพ่อแม่พี่น้องชาวบึงกุ่ม ได้รับการต้อนรับดีมาก โดยเฉพาะพื้นที่เขตบึงกุ่ม ที่เป็นพื้นที่เก่าของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย อีกทั้งยังมีอดีต ส.ก.แมน เจริญวัลย์ เป็นผู้นําทัพในการหาเสียงครั้งนี้ ดังนั้นจากนี้อีกกว่า 50 วันที่เหลือ ตนจะเน้นเดินเท้าเคาะประตูบ้าน เพื่อสานต่อการทำงานในพื้นที่เขตบึงกุ่มเหมือนกับที่คุณหญิงสุดารัตน์ และ ส.ก.แมน เจริญวัลย์ ที่ “ทำงานจริงจัง ฟังเสียงประชาชน”