นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมโปร่งใส และรับผิดชอบต่อลูกค้ามาโดยตลอด และบริษัทได้ปฎิบัติตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ที่ออกมาโดยตลอด ดังนั้น การประกาศหลักเกณฑ์การปฏิบัติและการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับดอกเบี้ย ค่าบริการ และเบี้ยปรับ สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อควบคุมการคิดค่าธรรมเนียมอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม ล่าสุด ของ ธปท. ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย.2565 ไม่กระทบกับธุรกิจแต่อยางใด

ทั้งนี้แผนธุรกิจปี 2565 บริษัทได้ประเมินสถานการณ์และแนวโน้มต่างๆไว้ในแผนธุรกิจเรียบร้อยแล้ว ทั้งภาวะเงินเฟ้อ แนวโน้มเศรษฐกิจไทย แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ทำให้ไม่กังวลว่าผลกระทบดังกล่าวจะมีผลต่อการทำกำไร ส่วนกรณีธปท.มีแผนร่างหลักเกณฑ์การขออนุญาตจัดตั้ง virtual bank ภายในไตรมาส2/2565 นั้น ไม่กระทบกับธุรกิจเช่นกัน ที่ผ่านมาก็มีการแข่งขันที่สูงอยู่แล้ว บริษัทยังรับมือได้ดี

นายระเฑียร กล่าวว่า ช่วงต้นปีที่ผานมาเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการใช้จ่ายที่สูงขึ้น ในบางช่วงสูงกว่าปี 2562 หรือช่วงเกิดก่อนสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวเช่นกันหลังจากที่สถานการณ์โควิดฯเริ่มคลี่คลายลง มีตัวเลขต่างๆบ่งชี้ว่าคนเริ่มกลับมาเดินทางมากขึ้น ขณะที่คุณภาพหนี้ของเคทีซีอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด เพราะบริษัทระวังมากในช่วงที่ผ่านมา เห็นได้จากยอดปฏิเสธใบสมัคร 50-80%ขึ้นอยู่กับประเภทบัตร

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการตอบรับกับแนวโน้มการท่องเที่ยวเริ่มกลับมา เคทีซีได้ร่วมกับ อโกด้า และมาสเตอร์การ์ด เปิดตัว”บัตรเครดิตเคทีซี-อโกด้า มาสเตอร์การ์ด” นับว่าเป็นการเปิดตัวบัตรเครดิตร่วมเป็นรายแรกในภูมิภาคเอเชีย เพื่อมอบสิทธิพิเศษสำหรับการจองโรงแรม ห้องพัก บัตรโดยสารสายการบิน รวมถึงบริการอื่นๆด้านการเดินทางที่ครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์มของอโกด้าได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ตั้งเป้าหมาย150,000 บัตรภายใน 5 ปี ส่วนในปีแรกคาดว่ามีผู้เข้ามาถือบัตรประมาณ 30,000-40,000 บัตร