สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่า จากกรณีเกาหลีเหนือประกาศเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) “รุ่นใหม่และมีขนาดใหญ่ที่สุด” ในชื่อ “ฮวาซอง-17” โดยถือเป็นการยิงไอซีบีเอ็มเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีของเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่การทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปชื่อ “ฮวาซอง-15” เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2560


ทั้งนี้ เคซีเอ็นเอให้ข้อมูลของฮวาซอง-17 ว่า เป็นขีปนาวุธที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.4-2.9 เมตร ยาว 24-26 เมตร เคลื่อนที่ได้เป็นระยะทางไกลประมาณ 1,090 กิโลเมตร ไต่ระดับความสูงได้มากที่สุดในช่วงหนึ่ง 6,248.5 กิโลเมตร และสามารถทำลายเป้าหมายซึ่งอยู่ในทะเลได้อย่างแม่นยำ


อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวด้านความมั่นคงและข่าวกรองของสหรัฐ ร่วมด้วยเกาหลีใต้ ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันอีกครั้ง เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าการทดสอบดังกล่าว แท้จริงแล้ว “ยังคงเป็น” ขีปนาวุธฮวาซอง-15 “แต่มีการจัดฉาก” ให้ดูเป็นการทดสอบฮวาซอง-17 เนื่องจากขีปนาวุธที่ใช้ทดสอบในวันนั้นมีหัวฉีดเครื่องยนต์เพียง 2 ตัว ทว่าฮวาซอง-17 ต้องมี 4 ตัว และติดหัวรบให้มีน้ำหนักเบาขึ้น เพื่อให้ขีปนาวุธเคลื่อนที่ได้เป็นระยะใกล้เคียงกับฮวาซอง-17


นอกจากนี้ แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้กล่าวอีกว่า การทดสอบขีปนาวุธเมื่อวันที่ 24 มี.ค. นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อกลบเกลื่อนความล้มเหลวของการทดสอบขีปนาวุธ เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทั้งนั้น ไอซีบีเอ็ม ทั้งที่เป็นรุ่นฮวาซอง-15 และฮวาซอง-17 มีพิสัยทำการเป็นระยะทางไกลเพียงพอถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ


ขณะที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เกาหลีใต้ประกาศความสำเร็จ ในการทดสอบจรวดเชื้อเพลิงแข็ง ถือเป็นก้าวย่างสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศ ด้วยการใช้เทคโนโลยีภายในประเทศ และเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่เกาหลีใต้ทำการทดสอบจรวดลักษณะนี้ นับตั้งแต่รัฐบาลโซลบรรลุข้อตกลงร่วมกับสหรัฐ ในการยุติข้อจำกัดด้านการพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2561.

เครดิตภาพ : REUTERS