สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ว่า เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน อัล ซาอุด รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย ทรงมีพระดำรัสเกี่ยวกับสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งไปถึง 140 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (ราว 4,662.84 บาท) ในช่วงหนึ่งของการซื้อขายวันนั้น และจนถึงตอนนี้ยังคงแตะอยู่ที่ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (ราว 3,330.60 บาท)


อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมถือว่า ตลาดน้ำมันโลกยังคงมีเสถียรภาพ นั่นเป็นเพราะการทำงานขององค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) และความร่วมมือกับ “พันธมิตร” ในนามโอเปกพลัส ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรัสเซีย หากไม่มีการรวมตัวเช่นนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันโลกอาจแย่ยิ่งกว่าที่จะมีใครประเมินได้ นอกจากนี้ เจ้าชายอับดุลอาซิซทรงยืนยันว่า โอเปก “ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอย่างเด็ดขาด”


ด้านนายซูฮาอิล อัล มาสรุย รมว.พลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) กล่าวว่า ตะวันตกควร “เชื่อมั่น” กับการทำงานของโอเปก ไม่ใช่ “การชี้นิ้วสั่ง” เพราะเป้าหมายของโอเปก คือการขับเคลื่อนนโยบายด้านน้ำมันให้มีประสิทธิภาพ เพื่อผลประโยชน์ของผู้บริโภค


ขณะเดียวกัน อัล มาสรุย กล่าวว่า รัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของโอเปกพลัส และ “จะเป็นแบบนี้เรื่อยไป” ทุกฝ่ายต้องให้เกียรติรัสเซียในฐานะหนึ่งในสมาชิก และเตือนมาตรการคว่ำบาตรพลังงานของตะวันตกที่มีต่อรัสเซีย ด้วยการตั้งคำถามกลับไปว่า “ประเทศใดมีศักยภาพการผลิตพลังงานเทียบเท่ารัสเซียบ้าง” ซึ่งภายใน 10 ปีนี้ โดยส่วนตัวเขายัง “หาไม่เจอ”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES