เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุหญิงชาวเอเชียวัย 61 ปี ซึ่งไม่มีการระบุชื่อ โดนทำร้ายโดยชายสองคนคือ โรเบิร์ต แว็ค วัย 30 ปี และ ซูพรีม กูดิง วัย 18 ปี ที่บริเวณด้านนอกของร้านลูอีส์ พิซซ่า ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างถนนแบกซเตอร์และถนนจัดจ์ ในย่านเอล์มเฮิร์สต์ เมืองนิวยอร์ก

เมื่อ ลูอี ซัลโจวิค เจ้าของร้านพิซซ่าลูอีส์ และพ่อของเขา ซึ่งอยู่ในวัย 68 ปี วิ่งเข้าไปขัดขวางการทำร้ายร่างกายหญิงสูงอายุ พวกเขาก็โดนคนร้ายใช้มีดแทงหลายแผล ก่อนที่คนร้ายทั้งสองจะหนีไป

ตำรวจนิวยอร์กเขตที่ 110 โพสต์บนทวิตเตอร์ของหน่วยงานว่า ซัลโจวิค เจ้าของร้านพิซซ่าซึ่งเป็นนายทหารผ่านศึกด้วย กำลังทำงานอยู่หลังเคาน์เตอร์กับพ่อของเขา ตอนที่พวกเขาเห็นหญิงสูงอายุโดนชิงทรัพย์อยู่หน้าร้าน สองพ่อลูกจึงรีบออกไปช่วยเหลือและโดนคนร้ายแทงไปหลายแผล

นอกจากนี้ ข้อความต่อเนื่องจากโพสต์ดังกล่าวยังระบุว่า ในระหว่างที่ยังมีสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ซัลโจวิค ยังคงเปิดร้านและบริจาคอาหารให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอล์มเฮิร์สต์ ทางทีมตำรวจจึงขออวยพรให้พวกเขาฟื้นตัวได้โดยเร็ว

ผู้ต้องสงสัยทั้งสองรายโดนจับกุมในที่สุด แว็ค โดนตำรวจตั้งข้อหาปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกาย รวมถึงมีสารเสพติดและอาวุธในครอบครองเพื่อก่ออาชญากรรม ส่วน กูดิง โดนข้อหาปล้นทรัพย์ ทำร้ายร่างกายและมีอาวุธในครอบครองเพื่อก่ออาชญากรรม

ซัลโจวิคและพ่อของเขา กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเอล์มเฮิร์สต์ พวกเขาต้องปิดร้านพิซซ่าชั่วคราวระหว่างรักษาตัว แต่ก็มีผู้ตั้งเพจเพื่อรับบริจาคค่ารักษาให้สองพ่อลูกในเว็บไซต์ GoFundMe เรียบร้อยแล้ว

แหล่งข่าว : Nextshark.com

เครดิตภาพ : Getty Images