ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุที่มาฉีดวัคซีนในสัปดาห์รณรงค์เชิญชวนฉีดวัคซีน “สงกรานต์ปีนี้ปลอดภัยได้เจอลูกหลาน” เพื่อต้อนรับลูกหลานกลับบ้านอย่างปลอดภัยในเทศกาลสงกรานต์ กับ “Save 608 by Booster” ที่ รพ.สต.หนองพลับ อ.หัวหิน มี นางสุมา เหมทัต รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ประจวบฯ, นพ.จิตตรัตน์ เตชวุฒิพร ผอ.รพ.หัวหิน, นายพลกฤต พวงวลัยสิน นอภ.หัวหิน, นายเจนวิท ผลิศักดิ์ รักษาการสาธารณสุขอำเภอหัวหิน, นางสาวสุดใจ เครือวณิชธรรม หัวหน้าสถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และประชาชนกว่า 300 คน มารับบริการฉีดวัคซีน พร้อมทั้งออกเยี่ยมบ้านผู้ป่วยสูงอายุติดเตียง ฉีดวัคซีน และมอบชุดยังชีพ

นายพรหมพิริยะ กล่าวว่า การระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในขณะนี้ แม้จะไม่รุนแรงแต่แพร่เชื้อได้เร็ว ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังถือเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะหากเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ หรือยังไม่ได้รับวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อาจเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ ครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นและเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่น ๆ นำไปปรับใช้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีบุตรหลานจากต่างจังหวัดเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัว จึงต้องเร่งรัดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยขณะนี้ สาธารณสุขจังหวัดมีรายชื่อประชาชนกลุ่มเป้าหมายแล้ว หากพบว่าประชาชนไม่ยอมฉีดวัคซีนเพราะกังวลเกี่ยวกับผลกระทบ ขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปพูดคุยสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อเชิญชวนประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วภายในช่วงเดือนมีนาคมนี้ จะได้มีระยะเวลาในการสร้างภูมิคุ้มกันก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิตจากการติดเชื้อลงได้

นพ.วัชรพงษ์ เหลืองไพรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีประชาชนกลุ่มเสี่ยง 608 ใน จ.ประจวบฯ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ร้อยละ 74 และได้รับวัคซีน 3 เข็ม ร้อยละ 30 ดังนั้นจึงต้องเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ขณะนี้พบว่า ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เพียงร้อยละ 68 และได้รับวัคซีน 3 เข็ม ร้อยละ 28 ซึ่งยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ถึงระดับร้อยละ 80-90 ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถป้องกันผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดได้ดีมาก โดยใน จ.ประจวบฯ กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีนมีอัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดอยู่ที่ 50 รายต่อแสนประชากร หากได้รับวัคซีน 1 เข็ม อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 20 รายต่อแสนประชากร หากได้รับวัคซีน 2 เข็ม อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 14 รายต่อแสนประชากร หรือลดลง 3.6 เท่า แต่หากได้รับวัคซีน 3 เข็ม อัตราการเสียชีวิต 0 รายต่อแสนประชากร หรือลดลงถึง 50 เท่า จะเห็นได้ว่าวัคซีนสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิตได้อย่างชัดเจน