เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีรับน้องโหดทำให้นายพัสยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.ปี 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ถูกรุ่นพี่ชั้นปี 2 ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อ.เมืองนครราชสีมา แจ้งข้อหานักศึกษารุ่นพี่ 7 คน ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายและทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บ พร้อมกับแจ้งข้อหารุ่นพี่ทั้งชั้นรวม 30 คน ความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ กรณีมั่วสุม และความผิดฐานทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล ส่วนกรณีสั่งรุ่นน้องแก้ผ้า อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทำสำนวนส่งอัยการเพื่อฟ้องศาลภายใน 30 วัน ส่วนร่างของน้องเปรม ครอบครัวได้จัดพิธีฌาปนกิจที่วัด อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ไปเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา

สั่งให้ออกแล้ว!15นศ.รุ่นพี่รับน้องโหด อีก15รายรู้เห็นผลสอบโมฆะ

ต่อมา เมื่อวันที่ 26 มี.ค. คณะกรรมการปกครอง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน สั่งลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ 30 คน ความผิดแตกต่างกันไป ที่รุนแรงที่สุดคือ สั่งให้ออกรุ่นพี่ 15 ราย ฐานความผิดร่วมกันฝ่าฝืนประกาศมหาวิทยาลัย วางแผน สั่งการ ควบคุมการดำเนินกิจกรรม ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยการใช้ไม้ฟาด ชกต่อย และใช้เท้าถีบยัน เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะเดียวกัน รุ่นพี่ปี 2 อีก 10 ราย มีโทษผลการสอบของภาคการศึกษานั้นเป็น “โมฆะ” โดยให้บันทึกผลการศึกษาเป็น “W” ฐานความผิดมีส่วนร่วมวางแผน สั่งการ ควบคุมการดำเนินกิจกรรมให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้า หมอบ คลาน และใช้ศีรษะปักพื้น เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 ที่เหลืออีก 5 ราย ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน ฐานความผิดร่วมสนับสนุนให้เกิดกิจกรรม นอกจากนี้ ยังสั่งลงโทษนักศึกษา ปี 1 จำนวน 37 ราย ถูกตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน ฐานความผิดมีส่วนร่วมในการสนับสนุนและเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง

ล่าสุด นายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี พ่อของน้องเปรม เปิดเผยว่า หลังทราบผลการสอบสวนวินัยของทางมหาวิทยาลัยฯ เห็นชัดเจนว่า มีรุ่นพี่ 15 คน ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายน้องเปรมจนเสียชีวิต ถูกลงโทษให้ออก ซึ่งตนเห็นว่าเป็นโทษที่ไม่ค่อยสาสม จริงๆอยากให้ลงโทษสูงสุดถึง “ไล่ออก” แต่ก็เคารพการทำงานของมหาวิทยาลัย ซึ่งผลที่ออกมาสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานของตนตั้งแต่แรกว่า อาจมีมากกว่า 7 คน ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้องเปรม ซึ่งคดีอาญาพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาแค่ 7 คน แต่ผลสอบของมหาวิทยาลัยพบว่ามี 15 คนที่ทำผิดรุนแรง จึงอยากเรียกร้องให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับรุ่นพี่อีก 8 คน ให้เอาผิดให้ครบทั้ง 15 คน บนฐานความผิดเดียวกัน คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

พ่อของน้องเปรม เปิดเผยอีกว่า จนถึงวันนี้ ยังทำใจไม่ได้ ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะต้องสูญเสียลูกชายที่เป็นความหวังของครอบครัว ต้องการดำเนินคดีกับผู้กระทำกับน้องเปรมให้ถึงที่สุด และวันนี้ เวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ปกครองรุ่นพี่ทั้ง 30 คน นัดหมายที่มหาวิทยาลัยฯ เพื่อขอมากราบขอขมา แต่ยังไม่มีกำหนดการพูดคุยเรื่องเงินเยียวยาช่วยเหลือแต่อย่างใด หลังจากนี้จะนำอิฐิของน้องเปรม ไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ต่อไป