จากกรณีที่วัดเขาพระทอง หมู่ 1 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรมราช ประกาศเลื่อนกำหนดการจัดงานแห่ผ้าห่มหลวงพ่อองค์ใหญ่และวางศิลาฤกษ์สร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง โดยมีคณะของ บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดัง จะเดินทางมาร่วมเป็นประธานในพิธีเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่ามีหลายคณะที่ไม่ทราบได้เดินทางมาร่วมในพิธี ทางวัดจึงจัดกิจกรรมสวดเจริญพระพุทธมนต์ทำบุญบ้านทำบุญเมือง ทำบุญประเทศ ไล่โรคร้ายโควิด-19 ก่อนพระมหาอารยนันต์ จะบวงสรวงขอขมาหลวงพ่อองค์ใหญ่เทพยดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าที่เจ้าทางเพื่อขออนุญาตนำคณะขึ้นไปบนยอดเขาพระทองเพื่อค้นหาถ้ำที่เป็นตำนานเรื่องเล่าที่มาของ “พระพุทธรูปทองคำถ้ำเขาพระทอง” อย่างไรก็ตามคณะตามหาถ้ำหาสมบัติเขาพระทองล่าสุดพบว่า ปากถ้ำได้ถูกหินหล่นลงมาปิดทับจนเหลือช่องแคบๆ จนไม่สามารถลงไปจนถึงห้องโถงก้นถ้ำได้ ทำให้ไม่เห็นมหาสมบัติและพระพุทธรูปทองคำตามที่ล่ำลือแต่อย่างใด

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มี.ค. พระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง กล่าวว่า ในกรณีที่ทางสื่อมวลชนส่วนกลางลงมาติดตามทำข่าวการค้นหาถ้ำมหาสมบัติที่มีตำนานเรื่องเล่าว่า มีพระพุทธรูปทองคำปางยืนประทานพรขนาดเท่าคนจริง ถูกล่ามโซ่ทองคำอยู่ภายในถ้ำ โดยมีชาวบ้านเคยไปพบมหาสมบัติและพระพุทธรูปทองคำในถ้ำมายืนยัน นอกจากนี้ทางวัดและชาวบ้านเคยขุดพบพระพุทธรูปขนาดต่างๆ ในถ้ำคาดว่าอายุ 300-400 ปี ล่าสุดขุดพบเมื่อปี 2558 จำนวน 3 องค์ ก่อนนำมาให้อาตมาเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา แต่สื่อมวลชนส่วนกลางนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อน ระบุเอาเองว่าพระที่ขุดพบทั้ง 3 องค์ อายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งอาตมาและทุกคนในวัดไม่เคยมีใครระบุเรื่องอายุของพระที่ขุดพบ เพราะอาตมาไม่ได้มีความรู้เชี่ยวชาญเรื่องพระเครื่องหรือวัตถุมงคล อาตมาไม่ใช่เซียนพระ แต่ยันว่าพระทุกองค์พบในถ้ำเขาพระทอง มีพยานบุคคลที่เป็นพระและฆราวาสจำนวนมากยืนยันได้

จนล่าสุดมีสื่อมวลชนส่วนกลางช่องหนึ่งได้นำภาพถ่ายไปให้ “ณัฐ แฟนพันธุ์แท้” ดูว่าพระที่พบอายุเป็นพันปีจริงหรือไม่ และทางณัฐ ระบุว่า 2 องค์ เป็นพระสมัยอยุธยา และอีกองค์หนึ่งสมัยรัตนโกสินทร์ ราวสมัยรัชกาลที่ 6 พร้อมสรุปว่าที่บอกว่าพระอายุพันปีจึงไม่เป็นความจริง ทางวัดหรือทีมงานอาจจะสร้างเรื่องสร้างกระแสขึ้นเพื่อผลประโยชน์บางอย่างหรือไม่ อาตมามองว่าเป็นการนำเสนอข่าวที่ไม่เป็นธรรมกับอาตมาและทางวัดเขาพระทองเป็นอย่างมาก และไม่สนใจที่จะนำเสนอเรื่องการค้นหาถ้ำมหาสมบัติและพระพุทธรูปทองคำในถ้ำตามตำนานที่เล่าต่อๆ กันมาหลายชั่วอายุคน

พระมหาอารยนันต์ กล่าวอีกว่า ทีมข่าวเดินทางมาขอให้อาตมาและลูกศิษย์วัดรวมทั้งชาวบ้าน ฝ่าพายุฝนขึ้นไปค้นหาถ้ำมหาสมบัติและพระพุทธรูปทองคำอย่างเหนื่อยยากลำบากแสนสาหัส และสุ่มเสี่ยงอันตราย 3-4 วัน ต่อเนื่อง และพบมีถ้ำอยู่จริงเพียง แต่เข้าไปไม่ได้เพราะปากถ้ำถูกหินถล่มปิดทับ รวมทั้งมีคนที่เคยพบทรัพย์และพระพุทธรูปทองคำถูกล่ามโซ่มายืนยันและชี้จุดที่พบ แต่กลับมานำเสนอข่าวสรุปว่าพระพุทธรูปที่ทางวัดและชาวบ้านขุดพบเมื่อปี 2558 จำนวน 3 องค์ อายุนับพันปี และภาพไปให้เซียนพระชื่อดังดู ก่อนที่เซียนพระคนดังกล่าวจะระบุว่าพระพุทธรูปอายุไม่ถึงพันปี เป็นการหลอกลวงสร้างกระแสสร้างภาพไม่น่าจะถูกต้องนัก ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของวัดไม่น้อย อย่างไรก็อาตมาไม่ได้โกรธสื่อช่องดังกล่าวและคิดว่าความจริงคือความจริงอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด เพียงแต่อาตมาอยากให้เสนอข่าวรอบด้าน สรุปจบแบบนี้มันเหมือนจงใจทำลายวัดเขาพระทองให้เสียหาย

ด้านนางเอื้อน ยังแจ๊ก อายุ 73 ปี ชาวบ้านในพื้นที่วัดเขาพระทอง กล่าวว่า ตนเองขอยืนยันว่าเคยไปเห็นพระพุทธรูปปางยืนประทานพรสีเหลืองอร่ามเชื่อว่าเป็นทองคำจริงและถูกล่ามโซ่สีเหลืองคล้ายทองคำที่ข้อเท้า เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ตนอายุ 42 ปี และยังจำติดตา พร้อมเก็บเป็นความลับมานานถึง 31 ปี เพิ่งมาเปิดเผยตอนที่สื่อมวลชนช่องใหญ่จากส่วนกลางมาสอบถาม และตนยังนำไปชี้จุดปากถ้ำเขาพระทองที่พบพระพุทธรูปทองคำด้วย ตนจำเรื่องนี้ขึ้นใจมาตลอด เพราะก่อนที่ตนจะไปพบพระพุทธรูปทองคำนั้น นายด้วง ยังแจ๊ก บิดาของตน เป็นคนไปพบพระพุทธรูปทองคำก่อนและเกิดความอยากได้ จึงเข้าไปยกพร้อมดึงโซ่ทองคำที่ล่ามข้อเท้าพระพุทธรูปออก แต่จู่ๆ ภูเขาเกิดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จนห้อนหินน้อยใหญ่ถล่มลงมา ทำให้พ่อของตนรีบวิ่งหนีตายออกจากถ้ำและมาเล่าให้ตนกับชาวบ้านฟัง ก่อนจะชวนเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งกลับไปค้นหาพระพุทธรูปทองคำในถ้ำใหม่อีกครั้ง

นางเอื้อน กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นพ่อของตนก็เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ตนและญาติๆ เชื่อว่าเกิดจากอาถรรพณ์พระทองคำที่พ่อตนไปลบหลู่จะยกกลับบ้าน หลังจากนั้นตนนอนฝันเห็นทรัพย์สมบัติและพระพุทธรูปทองคำ รวมทั้งพระพุทธรูปองค์เล็กๆ จำนวนมากในถ้ำ โดยคนที่เฝ้าอยู่ชวนให้ตนไปเอาพระพุทธรูป พอรุ่งเช้าตนจึงชวนหลาน 2 คน ไปตรวจสอบที่ถํ้าดังกล่าว และพบปากถ้ำแคบมากๆ มีแสงสีเหลืองแดงสาดส่องออกมานอกถ้ำ ตนจึงใช้เทียนจุดส่องเข้าไปในถ้ำ ก็ต้องตะลึงเมื่อพบพระพุทธรูปทองคำปางยืนพระทานพร ล้มตะแคงไปพิงกับผนังถ้ำคาดว่าเป็นองค์เดียวกับพ่อของตนพบ

ขุดพบพระพุทธรูปโบราณ “3องค์”ในถ้ำเขาพระทอง!

นางเอื้อน กล่าวต่ออีกว่า ในขณะนั้นมีค้างคาวหลายร้อยตัวบินกรูออกจากถ้ำ จนหลาน 2 คนของตนเกิดความหวาดกลัว ในขณะที่ตนไม่กล้าเข้าไปในถ้ำ ก่อนพบว่าใต้ต้นไม้หน้าถ้ำมีพระพุทธรูปองค์เล็กและลูกดินกลมๆ วางกระจายอยู่จำนวนมาก ทราบภายหลังว่าลูกกลมๆ คือลูกธนูคนธรรพ์ ตนจึงให้หลานทั้งสองคนหยิบเอาพระพุทธรูปองค์เล็กและลูกธนูคนธรรพ์ติดมือมาก่อนพากันรีบเดินกลับบ้าน ต่อมาหลานของตนถูกรถชนเสียชีวิตทั้ง 2 คน ตนและญาติ จึงเชื่อว่าเกิดจากอาถรรพณ์ที่ไปขโมยพระพุทธรูปจากหน้าถ้ำเขาพระทอง ซึ่งตนเก็บเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นความลับไม่เคยพูดเปิดเผยที่ไหนกับใครมายาวนาน และยอมเปิดเผยกับสื่อมวลชนแห่งหนึ่งไปเมื่อ 2 วันก่อนนี้.