จากกรณีมีรายงานว่า ได้มีชายคนหนึ่งบุกเข้าไปก่อกวน น.ส.ภิรดา ธนโชติจินดา หรือ แม่น้ำหนึ่ง ที่บริษัทแม่น้ำหนึ่ง 88 จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 234 หมู่ 10 ต.หนองบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา รวมทั้งเดินทางไปที่ลานพญานาคที่แม่น้ำหนึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ และข่มขู่คนที่อยู่ในบ้าน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามทีมงานแม่น้ำหนึ่งได้รับการเปิดเผยว่า หลังจากที่ชายคนดังกล่าวไปไลฟ์สดได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ด่านขุนทด เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าบุคคลดังกล่าวจะมาก่อเหตุซ้ำหรือทำอะไร ให้ได้รับอันตรายและให้เกิดความเสียหาย แก่ทรัพย์สินซ้ำอีก จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน ส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ
ส่วนที่บริเวณจุดก่อสร้างองค์ปู่พญานาค ในวันนี้พบว่ามีการ พักการก่อสร้างก่อน 1 วันเนื่องจาก ท้องฟ้ามืดครึ้มอาจมีฝนตกเมื่อเช้าที่ผ่านมาจึงเป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้าง เนื่องจากเป็นการทำงานปูนจึงไม่สามารถทำตากฝนได้ ซึ่งหากสถานการณ์ปกติก็จะดำเนินการก่อสร้างต่อไป
ระทึก!หนุ่มบุกบ้าน “แม่น้ำหนึ่ง” เจ้าตัวลั่นเอาเรื่องให้ถึงที่สุด…
ส่วนเรื่องการขออนุญาตเบื้องต้นทราบว่า สามารถดำเนินการด้านเอกสารจนผ่านการรับอนุญาตเรียบร้อยแล้วจึงดำเนินการก่อสร้างได้ ส่วนที่การขออนุญาตล่าช้า คาดว่าน่าจะมีสาเหตุจากที่ความไม่ชัดเจนเรื่องพื้นที่ตั้งว่าอยู่ในเขตพื้นที่ใดแน่ระหว่างพื้นที่ ต.หนองบัวตะเกียด หรือ ต.กุดพิมาน ซึ่งล่าสุดชัดเจนแล้วว่าเป็นพื้นที่ ต.กุดพิมาน จึงสามารถดำเนินการด้านเอกสารได้ แต่ด้วยสถานการณ์ covid-19 ปิดไม่ให้คนเข้ากราบไหว้บูชาจนกว่าสถานการณ์จะปกติ
จากการสอบถาม นายสำรวย วงศ์ศักดา 45 ปี คนงานก่อสร้างที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า ช่วงที่เกิดเหตุก็เป็นไปอย่างตามภาพที่ไลฟ์สด ขณะที่ทำงานก่อสร้างอยู่กับคนงานทั้งหมด 4 คน มีคนเข้ามาแล้วบุกรุกเข้าไปโดยไม่ขออนุญาต นอกจากนี้ก่อนเข้าไปได้ เตะและโยนเครื่องไหว้ ถังน้ำหวานน้ำแดงและเครื่องไหว้ 1 ที่วางอยู่บริเวณริมทางข้างสแลนผ้าใบ ซึ่งเป็นเครื่องไหว้ที่พี่น้องประชาชนนำมากราบไหว้ ก่อนเหยียบสแลนเข้าไปข้างในแล้วก็ไปด่าว่า แม่น้ำหนึ่งใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพไปด้วย
ทั้งนี้ตอนแรกตนก็ยังเข้าใจว่าเป็นเพื่อนแม่น้ำหนึ่งที่ไลฟ์สดพูดคุยกันก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพื่อนแม่น้ำหนึ่งที่ไลฟ์สดพูดคุยกันหรือโทรศัพท์พูดคุยกัน จากนั้นคนดังกล่าวก็ออกมาทำพิธีกรรม ตามความเชื่อของเขาก่อนที่จะเดินออกไปซึ่งส่วนตัวของตนเองเป็นแค่คนงานก่อสร้างก็จึงไม่กล้าทำอะไรมาก ก่อนมารู้ทีหลังว่าเป็นการบุกรุกโดยไม่ได้ขออนุญาต ส่วนเรื่องการก่อสร้างตนได้สอบถามหน่วยงานต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ามีเอกสารอย่างถูกต้อง จึงมาดำเนินการก่อสร้างต่อ หากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ก็คงไม่กล้ามาดำเนินการก่อสร้าง….