นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากทูตพาณิชย์ประจำซาอุดีอาระเบีย ว่าทางการซาอุดีอาระเบีย ได้อนุญาตให้นำเข้าไก่สด ไก่แช่เย็น ไก่แช่แข็ง และแปรรูปจาก 11 โรงงานของประเทศไทยได้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการปลดล็อกให้ไทยกลับไปส่งออกไก่ไปซาอุฯ ได้อีกครั้ง โดยหลังจากนี้ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หารือร่วมกับภาคเอกชน สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางทำตลาด รวมถึงการจัดคณะไปเจรจาการค้าเพื่อผลักดันให้มีการส่งออกต่อไป
“เมื่อวันที่ 13 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ทูตพาณิชย์ กับอุปทูตของกระทรวงการต่างประเทศประจำซาอุฯ ได้เดินทางพบผู้บริหารระดับสูงขององค์การอาหารและยาของซาอุดีอาระเบีย โดยได้ข้อสรุปร่วมกันที่เป็นข้อยุติว่าซาอุดีอาระเบียจะอนุญาตให้นำเข้าไก่จากประเทศไทยได้ จาก 11 โรงงานที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานแล้ว โดยให้มีผลทันที ขณะเดียวกันทาง อย.ซาอุดีอาระเบียได้ออกประกาศผ่านเว็บไซต์ ไปแล้วด้วย จึงเป็นข่าวดีของไทย ที่จะกลับมาส่งออกไปซาอุฯ ได้อีกครั้ง”
นายจุรินทร์กล่าวว่า ปัจจุบันซาอุดีอาระเบียนำเข้าไก่มากถึงปีละ 5.9 แสนตัน โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากบราซิล 70% อีก 30% นำเข้าจากยูเครนและฝรั่งเศส ซึ่งผลจากการอนุญาตในครั้งนี้ ไทยจะมีโอกาสเข้าไปมีส่วนแบ่งการตลาดในซาอุดีอาระเบียได้ แต่ก็กำชับให้คำนึงถึงปริมาณไก่ในการบริโภคในประเทศด้วย โดยจะต้องดูว่าหากส่งออกไปจะต้องไม่ให้กระทบต่อราคาและปริมาณไก่ที่คนไทยใช้บริโภคภายในประเทศ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตัวเลขการส่งออกไก่ของไทยในปี 64 ไทยส่งออกไก่ไปทั่วโลก 912,900 ตัน เติบโต 1.95% มีมูลค่าการส่งออกไก่แช่เย็นแช่แข็งและแปรรูปรวม 102,529 ล้านบาท ลบ 1.3% ส่วนสถิติการส่งออกไก่ของไทยไปซาอุฯ ปีล่าสุด 45 มียอดส่งออก 56.9 ล้านบาท และปี 46 ส่งออกไป 4.8 ล้านบาท และหลังจากนั้นไทยไม่สามารถส่งออกไปซาอุฯ ได้เลย ดังนั้นจึงถือเป็นการกลับมาส่งออกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี